คลังเก็บหมวดหมู่: ประวัติศาสตร์

สิ่งที่ทำให้ กลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง

Published / by admin

สิ่งที่ทำให้ กลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และปราสาทปลายบัด จ.บุรีรัมย์ เหมาะสมกับการจะเป็นมรดกโลกของประเทศไทย

กลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และปราสาทปลายบัด ตั้งอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศไทยที่มีความโดดเด่นทั้งด้านสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และประวัติศาสตร์ของอารยธรรมขอม

กลุ่มเทวสถานเหล่านี้สะท้อนถึงการผสมผสานทางศาสนาและวัฒนธรรมระหว่างอาณาจักรขอมกับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยในยุคศตวรรษที่ 10 ถึง 13

 

  1. ปราสาทพนมรุ้ง

ปราสาทพนมรุ้งตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับแล้ว เป็นหนึ่งในศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของอาณาจักรขอมในประเทศไทย สถาปัตยกรรมของปราสาทพนมรุ้งถูกสร้างขึ้นตามหลักฮินดู โดยเฉพาะการบูชาพระศิวะ และปราสาทได้รับการออกแบบให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งในวันวิษุวัตเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นและตกตรงกับช่องประตูหลักของปราสาท สะท้อนถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งของช่างในการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างวิศวกรรมกับธรรมชาติ

นอกจากนี้ ปราสาทพนมรุ้งยังมีลวดลายสลักหินที่ละเอียดอ่อนและวิจิตร รวมถึงปรากฏการณ์แสงที่ทำให้เกิดเงาพระศิวะบนบัวบานในวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นตรงหน้าปราสาท ทำให้สถานที่นี้เป็นที่เชิดหน้าชูตาทางศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญ

 

  1. ปราสาทเมืองต่ำ 

ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำเป็นศาสนสถานอีกแห่งหนึ่งที่สะท้อนถึงศิลปะและสถาปัตยกรรมขอม สถาปัตยกรรมของปราสาทเมืองต่ำเป็นตัวอย่างของการสร้างศาสนสถานบนพื้นราบที่โดดเด่น มีบ่อน้ำ 4 มุมล้อมรอบด้วยพญานาค

ซึ่งแสดงถึงความศรัทธาต่อพระนารายณ์ สถาปัตยกรรมที่นี่สะท้อนถึงความเชื่อทางศาสนาของชาวขอมที่ผสมผสานกับธรรมชาติ การใช้บ่อน้ำที่สอดคล้องกับปรัชญาทางศาสนาทำให้สถานที่นี้มีความหมายลึกซึ้ง

  1. ปราสาทปลายบัด 

แม้ปราสาทปลายบัดจะมีขนาดเล็กกว่าปราสาทพนมรุ้งและปราสาทเมืองต่ำ แต่ก็ยังคงความสำคัญในฐานะศาสนสถานฮินดูที่สร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะ ศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมที่นี่สะท้อนถึงรูปแบบและวิธีการก่อสร้างที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของอารยธรรมขอม

แม้จะอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกล แต่ปราสาทปลายบัดยังคงรักษาความสวยงามและสำคัญทางศาสนาไว้อย่างครบถ้วน

กลุ่มเทวสถานเหล่านี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและศาสนาที่ลึกซึ้งระหว่างอาณาจักรขอมและพื้นที่ภาคอีสานของไทย นอกจากนี้ยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาและการปรับตัวทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย

การรักษาความเป็นเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมไว้ได้อย่างครบถ้วน สถานที่เหล่านี้ยังคงเป็นแหล่งที่น่าสนใจในการศึกษาทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม นอกจากนี้ ความสำคัญทางจิตวิญญาณของสถานที่เหล่านี้ยังเป็นที่เคารพและยกย่องจากชุมชนท้องถิ่น

สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้กลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และปราสาทปลายบัด เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะได้รับการพิจารณาเป็นมรดกโลกของประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการรับรู้และการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของไทยให้คงอยู่ต่อไป

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย      ole777 ทางเข้า

พีระมิดฮาวารา: สุสานสมบัตินิรภัยและสิ่งมหัศจรรย์แห่งกาลเวลา

Published / by admin

พีระมิดฮาวารา (Hawara Pyramid) ตั้งอยู่ในเขตฟายุม (Fayum) ประเทศอียิปต์ เป็นหนึ่งในพีระมิดที่สำคัญของยุคอียิปต์โบราณ สร้างขึ้นในช่วงราชวงศ์ที่ 12 โดยฟาโรห์อเมนเอมแฮตที่ 3 (Amenemhat III)

ประมาณ 1859-1813 ปีก่อนคริสต์ศักราช พีระมิดนี้มีความสูงเดิมประมาณ 58 เมตร ปัจจุบันลดลงเหลือประมาณ 20 เมตร เนื่องจากการกัดกร่อนของกาลเวลาและปัจจัยธรรมชาติ

พีระมิดฮาวารามีชื่อเสียงในฐานะสุสานหลวงและสถานที่ฝังพระศพของฟาโรห์อเมนเอมแฮตที่ 3 ซึ่งสร้างขึ้นด้วยความประณีต มีโครงสร้างที่ซับซ้อนและหินที่ใช้ในการสร้างได้รับการเจียระไนอย่างละเอียด ทำให้พีระมิดนี้เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่ยืนหยัดผ่านกาลเวลามาหลายพันปี

 

สิ่งที่ทำให้พีระมิดฮาวารามีความโดดเด่นและน่าพิศวงคือ “เขาวงกตฮาวารา”

ซึ่งตั้งอยู่ภายในพีระมิด นักประวัติศาสตร์และนักสำรวจเชื่อว่าภายในเขาวงกตนี้มีห้องหลายร้อยห้องเชื่อมต่อกัน โดยแต่ละห้องอาจเก็บสมบัติและทรัพย์สินของฟาโรห์จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีห้องที่ออกแบบมาให้เป็นกับดักสำหรับป้องกันการบุกรุกและการขโมยสมบัติของฟาโรห์

เรื่องราวปริศนาของพีระมิดฮาวารายังคงเป็นที่ถกเถียงในหมู่นักโบราณคดี แม้จะมีการสำรวจและขุดค้นหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดของเขาวงกตนี้ อย่างไรก็ตาม หลายคนเชื่อว่าเขาวงกตนี้เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและความลึกลับของฟาโรห์อเมนเอมแฮตที่ 3

นักสำรวจชาวอังกฤษชื่อ Flinders Petrie เป็นคนแรกที่สำรวจพีระมิดฮาวาราในปี 1888 โดยเขาพบโครงสร้างภายในที่ซับซ้อนและได้พยายามที่จะสำรวจห้องต่างๆ แต่ก็ยังไม่สามารถไขปริศนาของเขาวงกตฮาวาราได้ทั้งหมด

นอกจากนี้ พีระมิดฮาวารายังถูกกล่าวถึงในผลงานของนักประวัติศาสตร์โบราณหลายคน เช่น Herodotus และ Strabo ที่ได้บรรยายถึงความอลังการและความลึกลับของพีระมิดนี้

แม้ว่าพีระมิดฮาวาราจะถูกกัดกร่อนและถูกทำลายบางส่วนในกาลเวลาที่ผ่านมา

รวมถึงพีระมิดฮาวาราก็ไม่ได้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของผู้คนเทียบเท่ากับพีระมิดอื่นๆ เช่น พีระมิดแห่งกีซ่า  แต่ความสวยงาม ความซับซ้อนแบะปริศนาที่เกี่ยวข้องกับสุสารสมบัตินิรภัย รวมถึงพีระมิดนี้ยังคงความยิ่งใหญ่และความลึกลับของมันยังคงอยู่ 

รวมถึงพีระมิดนี้ยังกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่แท้จริงของยุคอียิปต์โบราณ นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์ยังคงพยายามค้นคว้าและศึกษาเกี่ยวกับพีระมิดนี้เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับปริศนาและความลึกลับที่ยังไม่คลี่คลายของมัน

พีระมิดฮาวาราไม่เพียงแต่เป็นสิ่งก่อสร้างทางสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ ความศรัทธา และความลึกลับที่ยังคงมีความหมายสำหรับมนุษย์จนถึงปัจจุบัน

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย    Holiday Palace สมัคร

ประวัติธนาคารแห่งประเทศไทย

Published / by admin

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นธนาคารกลางของรัฐไทย มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการนโยบายการเงินและการเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2485 (1942) ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง “ธนาคารพาณิชย์แห่งประเทศไทย” มีชื่อเดิมว่า “ธนาคารกรุงไทย” และในปี พ.ศ. 2499 (1956)

ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ธนาคารแห่งประเทศไทย” ซึ่งเป็นชื่อที่ยังคงใช้จนถึงปัจจุบัน

ธปท. มีหน้าที่หลักในการกำหนดนโยบายการเงิน เพื่อให้ระบบการเงินของประเทศมีความมั่นคง และสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ในการจัดการธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ รวมถึงเป็นศูนย์กลางในการระบายน้ำหนักการเงินในระบบการเงินและระบบการชำระเงินของประเทศ

 

ประวัติความเป็นมาของธปท.เน้นไปที่การพัฒนาและปรับปรุงระบบการเงินในประเทศไทย โดยมีการขยายฐานธุรกิจและบริการให้กับประชาชนและธุรกิจในระดับท้องถิ่นและนานาชาติ

การพัฒนาด้านเทคโนโลยีและการบริการออนไลน์ก็เป็นส่วนสำคัญที่ธปท. ได้เน้นไปในช่วงเวลาสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยังคงเป็นจุดเด่นของธนาคารในปัจจุบันด้วย

ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ผ่านการปรับปรุงและการพัฒนาตลอดเวลา เริ่มต้นจากบทบาทของผู้ให้บริการการเงินเพื่อรองรับเศรษฐกิจ ไปจนถึงการเป็นตัวแทนที่สำคัญในการสนับสนุนกิจกรรมเศรษฐกิจที่หลากหลาย เช่น การส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ การสนับสนุน SMEs และการให้บริการทางการเงินที่หลากหลายให้แก่ประชาชนทั่วไป

จุดเด่นของธนาคารแห่งประเทศไทยคือความหลากหลายในผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน โดยการนำเสนอแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น บริการการซุมเงินออนไลน์ และการลงทุนในพื้นที่ที่ให้ผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยม

โครงสร้างของธนาคารแห่งประเทศไทยประกอบด้วยส่วนสำคัญต่อไปนี้:

  1. คณะกรรมการผู้จัดการ

    – ประกอบด้วยผู้บริหารสูงสุดของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีบทบาทในการกำหนดนโยบายเงินและสกุลเงินของประเทศ

    – ซึ่งประกอบด้วย ผู้ว่าการ รองผู้ว่าการ และสมาชิก

  1. สำนักงานระบบเงินและสกุลเงิน:

    – รับผิดชอบในการวางแผนนโยบายเงินและสกุลเงินของประเทศ รวมถึงการดูแลระบบการเงินทั้งหมด

 

  1. ธนาคารกลาง

    – หน้าที่สำคัญในการจัดการเรื่องเงินธนาคารและการควบคุมเงินธนาคาร

    – มีบทบาทในการประกอบธนาคารเฉพาะกิจ รวมถึงการพิจารณาอนุมัติใบอนุญาตธนาคาร

  1. สำนักงานธนาคารพาณิชย์

    – รับผิดชอบในการตรวจสอบและกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้มีการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องและมีความเสถียรภาพ

  1. สำนักงานบริหารบุคคลและการจัดการ

    – รับผิดชอบในการจัดการทรัพยากรบุคคลและงานบริหารทั่วไปของธนาคาร

  1. สำนักงานนโยบายเศรษฐกิจ

    – รับผิดชอบในการวิเคราะห์และกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ

  1. สำนักงานประสานงานทางการเงินระหว่างประเทศ

    – รับผิดชอบในการประสานงานทางการเงินระหว่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจระหว่างประเทศของไทย

โดยทั้งหมดนี้ร่วมกันให้กำเนิดโครงสร้างที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพสำหรับการบริหารจัดการเรื่องเงินและการเงินของประเทศไทย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    คาสิโนเวียดนาม

วัดบางจาก จังหวัดนนทบุรี

Published / by admin

          วัดบางจาก  สำหรับในบทความนี้จะมาพูดถึงประวัติความเป็นมาของวัดบางจากซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ อีกวัดหนึ่งของจังหวัดนนทบุรีด้วยวัดแห่งนี้นั้นเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งหนึ่งประจำจังหวัดผู้คนมักจะเดินทางเข้ามาเพื่อกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และทำบุญโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำบุญบริจาคโคกระบือรวมถึงการลอดใต้ท้องโบสถ์

         สำหรับวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วงประมาณปีพุทธศักราช 2365  สำหรับกลุ่มคนที่ก่อสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาก็คือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณดังกล่าวซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมอญที่อพยพมาอยู่ภายในเกาะเกร็ด   ดังนั้นลักษณะของการสร้างวัดออกมาจึงมีความคล้ายคลึงกับวัดมอญเป็นอย่างมากเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามว่ากันว่าแต่เดิมวัดแห่งนี้นั้นมีชื่อเรียกว่าวัดบางภูมิ 

            เนื่องจากว่าสถานที่ในการก่อสร้างวัดนั้นอยู่ใกล้ปากคลองบางภูมิ  แต่เนื่องจากว่าบริเวณพื้นที่ที่เป็นจุดในการก่อสร้างวัดบางพูนนั้นเป็นลักษณะพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นเรียบเป็นที่ลุ่มซะส่วนใหญ่  ดังนั้นเมื่อเกิดฝนตกก็มักจะมีน้ำท่วมขังทำให้ไม่สะดวกต่อการเดินทางมาทำบุญที่วัดชาวบ้านจึงได้รวมตัวกัน

และตัดสินใจกันว่าจะย้ายวัดบางภูมิไปไว้ที่อื่นดังนั้นหลังจากที่ตกลงกันได้จึงได้มีการตัดสินใจย้ายวัดบางภูมิมาสร้างใหม่ตรงบริเวณพื้นที่ที่เป็นวัดบางจากในปัจจุบัน และได้ทำการเปลี่ยนชื่อวัดใหม่จากวัดบางภูมิเป็นวัดบางจากมาจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเอง 

         สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดบางจากของจังหวัดนนทบุรีนั้นก็คือหลวงพ่อโตหรือที่รู้จักกันในนามของสมเด็จพระพุทธมงคลชัยซึ่งเป็นหลวงพ่อองค์ปางมารวิชัยขนาดใหญ่เป็นพระพุทธรูปที่ถูกนำมาประดิษฐ์ฐานไว้บริเวณด้านหน้าของตัววัดซึ่งจะอยู่ ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา  โดยพระพุทธรูปองค์นี้นับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปองค์ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดนนทบุรีเลยก็ว่าได้

         นอกจากจะมีองค์พระพุทธรูปที่ใหญ่และมีความเก่าแก่ ตรงบริเวณทางขึ้นท่าเรือซึ่งอยู่ด้านหน้าของตัววัดนั้นจะมีองค์พญานาค 2 ตนถูกสร้างไว้คู่กันโดยมีการสร้างองค์พญานาคหันหน้าเข้าหากันตัวนึงจะมีการตกแต่งเป็นสีเขียวมรกตส่วนอีกตัวนึงนั้นจะมีการตกแต่งเป็นสีม่วงองค์พญานาคทั้งสององค์นั้นจะหันหน้าเข้าหาหลวงพ่อโตซึ่งอยู่บริเวณริมแม่น้ำอีกด้วย 

           นอกจากนี้ภายในพื้นที่บริเวณวัดยังมีจุดต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นต่างๆซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรูปปั้นของเรื่องเล่านิทานชาดกเกี่ยวกับทศชาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารวมถึงเรื่องพระเวสสันดรนอกจากนี้ยังมีรูปปั้นขององค์พระพิฆเนศและองค์รูปปั้นของสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์อื่นๆอีกด้วย 

 

สนับสนุนโดย.    gclub ฝาก ขั้นต่ำ 20

วัดพระงามคลองสระบัว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

Published / by admin

    วัดพระงามคลองสระบัว  สำหรับวัดที่เราจะพาไปรู้จักกันในครั้งนี้นั้นเรียกได้ว่าเป็นวัดที่ถูกขนานนามว่าที่นี่เป็นประตูไปสู่กาลเวลาจากโลกหนึ่งไปอีกโลกหนึ่งหรือจากภพหนึ่งไปยังอีกภพหนึ่งเรียกได้ว่าการก้าวผ่านจากยุคปัจจุบันไปยังยุคอดีตนั่นเองเนื่องจากที่วัดแห่งนี้นั้นมีบริเวณซุ้มประตูซึ่งมีความเก่าแก่และมีความโบราณเป็นอย่างมากและเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของวัดแห่งนี้เลยก็ว่าได้

        โดยลักษณะของซุ้มประตูที่เป็นจุดเด่นของวัดแห่งนี้นั้นจะเป็นสร้างซุ้มประตูซึ่งเหลือเพียงอิฐด้านบนที่โค้งมนที่ทำให้เห็นได้ว่าในอดีตนั้นตรงบริเวณนี้เคยเป็นซุ้มประตูมาก่อน 2 ฝั่งของซุ้มประตูที่เราสามารถเดินผ่านไปได้นั้นจะมีต้นโพธิ์ต้นใหญ่ 2 ต้นประกบอยู่ที่ซุ้มประตูและรากของต้นโพธิ์นั้นก็พันเกี่ยวกับซุ้มประตูทำให้ซุ้มประตูนี้ไม่หักพังเสียหายไปตามกาลเวลายังคงเป็นซากอารยธรรมโบราณที่ทำให้เราได้เห็นว่าตรงจุดนี้เคยเป็นซุ้มประตูของทางเข้าวัดมาก่อน

              สำหรับวัดที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่ในครั้งนี้ก็คือวัดพระงามคลองสระบัวซึ่งวัดแห่งนี้บอกได้เลยว่าไม่มีพระสงฆ์อาศัยอยู่แล้วเพราะเป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในยุคโบราณหรืออาจกล่าวได้ว่าตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเลยทีเดียวโดยวัดแห่งนี้นั้นเหลือเพียงแค่วัดที่รกร้างว่างเปล่าแต่ว่าที่นี่ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเพราะถือได้ว่าเป็นวัดที่แสดงให้เห็นถึงอารยธรรมในสมัยโบราณณกาลนั่นเอง

          อย่างไรก็ตามสิ่งที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับวัดพระงามแห่งนี้ได้นั่นก็คือซุ้มประตูกาลเวลาแห่งนี้นั่นเองเพราะถ้าหากใครที่เดินทางมาที่วัดแห่งนี้ในช่วงประมาณตอนเย็นๆที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแสงพระอาทิตย์จะส่องตรงมายังบริเวณซุ้มประตูโบราณดังกล่าวซึ่งแสงจะออกสีทองนวลตาทำให้มีความรู้สึกว่าแสงดังกล่าวนั้นจะสามารถส่งตัวเราให้ก้าวผ่านจากปัจจุบันไปยังอดีตได้เลยทีเดียว 

           อย่างไรก็ตามถ้าหากใครต้องการที่จะเดินทางมาชมความสวยงามความรกร้างว่างเปล่าหรือสร้างอารยธรรมของวัดพระงามคลองสระบัวแห่งนี้คุณสามารถค้นหาแผนที่การเดินทางได้ผ่านทาง Google Map ซึ่งที่นี่นั้นถือว่าเป็นอีกวัดหนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจถึงแม้ว่าวัดแห่งนี้จะเก่าแก่อายุหลายร้อยปีแล้วก็ตาม

           สำหรับใครที่อยากจะมาชมความอัศจรรย์ใจช่วงเวลาที่ประเทศส่องมาที่บริเวณซุ้มประตูให้เดินทางมาที่วัดแห่งนี้ช่วงเวลาประมาณ 17:00 น เป็นต้นไปแต่ไม่ควรที่จะเกิน 18:30 น เพราะหลังจากนั้นแสงพระอาทิตย์ก็จะหมดซึ่งจะทำให้เรามองไม่เห็นความสวยงามระหว่างที่แสงพระอาทิตย์ส่องมาที่ซุ้มประตูแล้ว 

 

สนับสนุนโดย.    สมัคร จีคลับ1688

ฉากสุดท้ายขุนหลวงนารายณ์ และฟอลคอน

Published / by admin

ฉากสุดท้ายขุนหลวงนารายณ์ ในช่วงที่ผ่านมาได้มีเวลาในการนั่งอ่านทามไลน์เหตุการณ์สำคัญ ในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์เพิ่มเติม จึงทำให้ได้รายละเอียดที่น่าสนใจเพิ่ม ขึ้นมาอีกมากมาย ดังนั้นขุนหลวงนารายณ์ส่องกล้องดูจันทร์ทะลุปราคาพร้อมคณะบาทหลวงเยซูอิต ตั้งแต่ก่อน ที่โกษาปานจะไปฝรั่งเศสเสียอีก โดยสถานที่ที่ใช้สำหรับส่องดาวนั่นก็คือ

 พระที่นั่งไกรสรสีหราช หรือว่าพระที่นั่งเย็น ที่อยู่บริเวณทะเลชุกสอน

 เพราะว่าที่นั่นเป็นสถานที่เปิด โดยจะมองเห็นท้องฟ้าได้ทั้ง 360 องศา เลยทีเดียว พระที่นั่งเย็น ในทะเลชุกสอนนี้เป็นสถานที่ประทับเวลาที่ขุนหลวงนารายณ์เสร็จมาคล้องช้างหรือมาล่าเสือ ซึ่งเป็นกิจกรรมโปรดของพระองค์ท่าน และการคล้องช้างนี้ ทำให้ได้ช้างมาเป็นจำนวณมาก ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญอย่างหนึ่งในแผ่นดินขุนหลวงนารายณ์ ด้วย

 คอนสแตนติน ฟอลคอน ได้มีสถานศึกษาเป็นของตนเอง

 โดยสถานศึกษานี้มีชื่อเรียกว่าวิทยาลัยคอนสแตนตินเนี่ยน ได้ทำการเปิดสอนเด็กๆทางด้านวิชาการและก็พุทธศาสนา ได้ก่อตั้งขึ้นในปีพุทธศักราช 2230 โดยขุนหลวงนารายณ์ทรงยกที่ดินให้ และก็แน่นอนว่า วิทยาลัยแห่งนี้ย่อมทำให้มีคนมาเข้า รีดเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

 ไม่ใช่เฉพาะศาสนาคริสต์เท่านั้น ที่ขุนหลวงนารายณ์ทรงแสดงออกว่า มีความสนพระทัย เพราะว่ามีบันทึกของชาวมุสลิมในสมัยอยุธยา ที่ได้ทำการระบุเอาไว้ว่า เชื่อว่าขุนหลวงจะต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามด้วยอย่างแน่นอน

เดือนมีนาคมพุทธศักราช 2231 คอนสแตนติน ฟอลคอน มีศาลไปแจ้งนายพลเดส์ฟาร์จ ซึ่งเป็นนายทหารชาวฝรั่งเศส ที่ได้เข้ามาประจำการอยู่ในป้องในเมืองบางกอกว่า ขุนหลวงนารายณ์ประชวนหนัก และมีคนคิดที่จะทำการก่อกบฏ

 นายพลเดส์ฟาร์จ จึงนำทหารส่วนหนึ่ง ลงเรือมุ่งหน้าไปยังเมืองละโว้ แต่พอวันที่ 14 เมษายน พุทธศักราช 2231 เรือได้ขึ้นไปถึงอยุธยา ซึ่งเป้นทางผ่าน นายพลเดส์ฟาร์จ ก็ได้ยินข่าวลือว่า ขุนหลวงนารายณ์สวรรคตแล้ว นายพลจึงเกิดอาการลังเลอย่างหนักว่าควรที่จะพากองทหารเดินทาง ไปละโว้ตามคำสั่งของฟอลคอน ดีหรือไม่

 และด้วยความลังเลอย่างหนักเนี่ยแหละ นายพลก็ได้ไปปรึกษาท่านสังฆราชปารู และมองสิเออร์เวเรต์ ซ฿งทุกคนต่างก็มองว่า นายพลควรที่จะพาทหาร กลับไปบางกอกเสียเถอะ

ในบันทึกของนายพลเดส์ฟาร์จ เล่ารยละเอียดเพิ่มเติมว่าทุกคนที่นายพลถามความคิดเห็น ล้วนบอกไปในทางเดียวกันว่า ฟอลคอนนั้นเขาเป็นคนปลิ้นป้อน เชื่อถือไม่ได้ ถ้าหากว่านายพลยังดื้อ จะไปละโว้ให้ได้ ก็มีหวังได้ตายกันหมดแน่ๆ นี่เป็นหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า แม้ในกลุ่มชาวฝรั่งเศสด้วยกันเอง ก็ยังมีความแตกแยกกันอยู่

 

สนับสนุนโดย.    gclub ฟรี 100

วีรกรรมของ คอนสแตนติน ฟอลคอน ในสมัยอยุธยา

Published / by admin

คอนสแตนติน ฟอลคอน ยังคงเป็นต้นเหตุของเรื่องเร้าใจหลายอย่าง ในแผ่นดินขุนหลวงนารายณ์ หนึ่งในเรื่องนั้นก็คือ กบฏมักกะสัน ในพุทธศักราช 2229 เมื่อโกษาเหล็กไม่อยู่แล้ว ฟอคอนก็ขึ้นเถลิงอำนาจอย่างเต็มที่ โดยอาศัยกลไกลอำนาจเพื่อแสวงหาประโยชน์

 

โดยเริ่มนโยบายผูกขาดอำนาจการค้าของพระคลังหลวง แบบเด็ดขาด จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเสียประโยชน์ขึ้นอย่างมากมาย ทั้งขุนนางเดิม ฮอลลันดา โปรตุเกส ลามไปถึงพระสงค์องค์เจ้า ที่โดนสึกออกมาใช้แรงงาน

 กลุ่มประชาชนในมุสลิมอยุธยาก็เดือดร้อนจากนโยบายของฟอลคอนด้วยเช่นกัน จนได้มีการวางแผนก่อกบฏขึ้น ในพุทธศักราช 2226 โดยแขกมักกะสันเป็นหัวโจก แขกมักกะสันคือมุสลิมที่มาจากมากาซ่า หรือสุลาเวสี หรืออุจุบันดัง ในหมู่เกาะอุรุกะ ในประเทศอินโดนีเซีย ในปัจจุบัน แขกมักกะสันขึ้นชื่อว่ารบเก่งสุด ๆ

 แขกมักกะสันร่วมมือกับแขกมลายู และก็แขกจาม มีการวางแผนกันเพื่อที่จะบุกเข้าไปที่วังของละโว้ เพื่อเป็นการปลงพระชนขุนหลวงนารายณ์ แล้วก็จะเป็นการแต่งตั้งพระอนุชาขึ้นแทน จากนั้นจะทำการไล่ฆ่าชาวญี่ปุ่นและชาวโปรตุเกส ที่เป็นคริสให้หมด

 อนิจจาแขกมักกะสันวางแผนกันได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ทำให้ข่าวนั้นรั่วออกไป คือมีแขกจามในกลุ่มคนหนึ่ง ได้ส่งหนังสือที่ทำการกบฏให้ไปหาพี่ชายที่อยู่ทางละโว้ เพื่อที่จะให้พาพักพวกไปสมทบกันกับที่นั่น แต่ว่าพี่ชายของเขากับดันไม่เล่นด้วยเสียย่างงั้น แถมยังเอาหนังสือนี้ไปให้กับฟอลคอน ก่อนที่จะถึงเวลานัดเพียงแค่ สองชั่วโมง

 

ดังนั้นฟอลคอนจึงทำการระดมไพล่พล ไปทำการขัดขวางเอาไว้ได้ทัน แขกมักกะสันประมาณ 53 คนลงเรือหนีตายไปบางกอก ฟอลคอนก็ให้ม้าเร็วทำหนังสือไปบอกเชอวาเลีย เดอ ฟอร์บัง ผู้การชาวฝรั่งเศสที่ประจำการที่ป้อมเมืองบางกอก ให้ขึงโซ่ยาวขวางแม่น้ำเจ้าพระยา สกัดไม่ให้เรือของชาวมักกะสันผ่านไปได้

 ฟอร์บังนำทหารเข้าสู้ แต่ว่าทหารนั้นก็โดนพวกแขนมักกะสัน ใช้กริชไล่ฆ่า ไล่แหวกท้องทหารล้มตายไปเยอะเช่นกัน ขนาดที่ตัวของฟอร์บังเองก็โดนกริชทิ่ม แทง จนตัวเองบาดเจ็บ แทบที่จะเอาชีวิตของตัวเองไม่รอด โดยความจริงแล้ว ฟอลคอนกับฟอร์บัง ต่างก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน

 โดยฟอลคอนอยากที่จะกำจัดฟอร์บังมาแล้วหลายหนด้วยกัน แต่ว่าก็ไม่สำเร็จ แล้วเหตุการณ์ที่ฟอลคอนใช้ให้ฟอร์บังไปปราบกบฏมักกะสันนี้ สำหรับฟอร์บังแล้วเท่ากับว่าใช้ให้เขานั้นไปตายชัด ๆ แขกมักกะสันบางส่วนโดนกองทหารฟอร์บังกดดันอย่างหนัก จนต้องหนีเข้าป่า แต่ว่าก็ยังไล่ฆ่าพระไทยวัดหนึ่งตายไปยกวัด ฟอร์บังใช้เวลาเดือนกว่า ๆ ถึงปราบกบฏมักกะสันลงได้

 

สนับสนุนโดย.     gclub royal1688 ฟรีเครดิต

ตำนานยักษ์วัดแจ้งยักษ์วัดโพธิ์กรุงเทพฯ

Published / by admin

    ตำนานยักษ์วัดแจ้งยักษ์วัดโพธิ์     เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินหรืออาจจะเคยเดินทางไปเที่ยววัดเชตุพนวิมลมังคลารามซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของศิลปะความงดงามของสิ่งก่อสร้างภายในบริเวณวัดนอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงโด่งดังเกี่ยวกับเรื่องของการนวดแผนโบราณอีกด้วยโดยวัดดังกล่าวนั้นผู้คนส่วนใหญ่จะมีการเรียกขานกันว่าวัดโพธิ์  ซึ่งวัดดังกล่าวนี้ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯนั่นเอง

       สำหรับในบทความนี้เราจะมีการพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของตำนานที่มีการสร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนานเป็นตำนานที่มีการเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นเกี่ยวกับวัดโพธิ์และรูปปั้นยักษ์ขนาดใหญ่ที่ยืนประจำอยู่ที่บริเวณประตูทางเข้าหน้าวัดโพธิ์แห่งนี้ว่ามีที่มาที่ไปและมีตำนานเกี่ยวกับยักษ์ตัวดังกล่าวนั้นอย่างไร อย่างไรก็ตามในตำนานนั้น  ไม่ได้กล่าวถึงเพียงแค่ยักษ์วัดโพธิ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังมียักษ์อีก 1 ตนซึ่งเป็นคู่อริกันแต่ก็อยู่ประวัติใกล้เคียงกันนั่นก็คือยักษ์วัดแจ้งดีด้วย

        สำหรับตำนานนี้เริ่มต้นมาจาก  วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารหรือวัดโพธิ์ท่าเตียนสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาและยังเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรีอีกด้วยด้วยหลายคนอาจจะเคยได้ยินตำนานการกำเนิดท่าเตียนกันมาบ้างแล้วว่าที่บริเวณท่าเตียนซึ่งเป็นพื้นที่โล่งเตียนนั้นเกิดจากการต่อสู้ระหว่างยักษ์วัดโพธิ์กับยักษ์วัดแจ้งโดยมียักษ์วัดพระแก้วเป็นผู้ห้ามทัพ

         รายละเอียดตามตำนานนี้ล่ะว่ายักษ์วัดโพธิ์กับยักษ์วัดแจ้งเป็นเพื่อนรักกันวันหนึ่งยักษ์วัดโพธิ์ไม่มีเงินจึงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปขอยืมเงินจากยักษ์วัดแจ้งเมื่อถึงเวลาต้องคืนเงินยักษ์วัดโพธิ์กลับไม่ยอมจ่ายยักษ์วัดแจ้งก็เลยข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาทวงเงินคืนทำให้ทั้งสองคน

ทะเลาะและต่อสู้กันส่งผลให้ต้นไม้แถวนั้นถูกเหยียบย่ำจนล้มตายก่อนเลิกต่อสู้กันแล้วบริเวณนั้นก็ราบเรียบโล่งเตียนไปหมดเรื่องนี้รวมไปถึงพระอิศวรจึงได้ลงโทษยักษ์ทั้ง 2 ตน

          โดยการสาปให้กลายเป็นหินโทษทางต่อสู้กันทำให้มนุษย์และสัตว์ในบริเวณนั้นเดือดร้อนตัวยักษ์วัดโพธิ์ก็ต้องไปยืนเฝ้าหน้าพระอุโบสถของวัดโพธิ์ยักษ์วัดแจ้งก็ทำหน้าที่ยืนเฝ้าพระวิหารวัดแจ้งจนถึงปัจจุบันไม่ว่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวจะมีพื้นความจริงหรือไม่หรืออาจจะเป็นแค่เรื่องเล่าขานเขาว่ามาแต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งตำนานเรื่องเล่าช่วยเพิ่มเสน่ห์และมูลค่าให้กับสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านั้นได้มากเรียกว่าอาจจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ไปซะด้วยซ้ำสำหรับการท่องเที่ยวในปัจจุบันเพราะหลากหลายเรื่องราวทั้งตำนานความรักเรื่องลึกลับก็ชวนให้เราอยากออกไปค้นหาและตามรอยดูสักครั้งจริงๆ 

 

สนับสนุนโดย.    Ufabet เข้าสู่ระบบ

สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ไขความลับลึก

Published / by admin

สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา มีเรื่องราวอันน่าพิศวงมากมายเกี่ยวกับการหายไปของเรือและเครื่องบินจำนวนมาก ใน Bermuda triangle หรือสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา สถานนี่แห่งนี้เป็นพื้นที่สามเหลี่ยมที่มีขนาดใหญ่อยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก  มันตั้งอยู่ระหว่างฟลอริดา,ปอร์โตริโกและเบอร์มิวดา

นี่คือสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องปรากฏการณ์ลึกลับเรือเครื่องบินจำนวนมาก หายไปในสถานสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาสามเหลี่ยมเบอร์มิวดามีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า (สามเหลี่ยมปีศาจ) ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น อยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ เรือและเครื่องบินหลายลำหายไปอย่างไร้ร่องรอย

มีหลายทฤษฎีดีเกี่ยวกับการหายไปที่เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ เช่นการหายไปของเครื่องบิน เกิดจากมนุษย์ต่างดาว UFO หรือแม้กระทั่งเรือที่อับปางลง สาเหตุเป็นเพราะสัตว์ทะเลลึกลับ

แต่นั้นเป็นเพียงแค่ทฤษฎีเท่านั้นเอง จุดเริ่มต้นของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาอันพิศวงนี้ เกิดขึ้นเมื่อ 1945 เมื่อเครื่งบินทิ้งระเบิดตอร์ปิโดสัญชาติอเมริกัน จำนวน 5 ลำ หายไอย่างไร้ร่องรอย ในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดานี้ ซึ่งหลงจากเหตุการณ์นั้น ในปัจจุบันเครื่องบินจำนวน 75 ลำและเรืออีกหลายร้อยลำ สูญหายไปในสามเหลี่ยมแห่งนี้ การหายไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ครั้งล่าสุด เกิดขึ้นใน 1 ตุลาคม 2015

เมื่อเรือบรรทุกสินค้า El Faro หายในสามเหลี่ยมนี้ เรือขนส่งของประเทศอเมริกาที่เดินทางจากฟลอริดาไปยังเปอร์โตริโกซึ่งหายไปจากจอเรดาร์อย่างไร้ร่องรอย หลังจากนั้นได้มีรายงานว่า พบการปะทุของภูเขาไฟที่ใต้ผิวของมหาสมุทรแห่งนี้ในการปะทุครั้งนี้เป็นสาเหตุอับปางของเรือดังกล่าวหรือไม่ ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ในวันที่ 20 มิถุนายน 2005 มีอีกหนึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อเรื่องบิน Piper PA ได้หายไปสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา

ซึ่งคนสูญหายทั้งหมดสามคน และยังมีอีกเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในช่วงคริสต์มาส ในปี1965 เมื่อนาย Burrack เจ้าของโรงแรมชื่อดังในไมอามี่นั่งสปีดโบ๊ทสุดหรูไปตามชายฝั่งทะเลไมอามี่พร้อมกับพ่อของเขาและหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ยามชายฝั่งรับโทรศัพท์เพื่อความช่วยเหลือจากนาย Burrack ที่อ้างว่าเรือของเขาถูกกระแทกจากวัตถุบางอย่างใต้ท้องเรือ

เมื่อยามชายฝั่งมาถึงสถานที่เกิดเหตุ พวกเขากลับไม่พบเรือ ไม่พบนาย Burrack และพ่อของเขา นายBurack และพ่อของเขานั้นหายตัวไปและไม่มีใครพบเห็นทั้งสองอีกเลย เรื่องราวของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดายังคงความลึกลับมานานนับทศวรรษ แต่ในปัจจุบันสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาได้ถูกไขปริศนาความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นแล้ว ทีมนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโคโลราโด

จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้นำภาพถ่ายของสภาพอากาศของทางดาวเทียวมาวิเคราะห์และพบกับกลุ่มเมฆรูปหกเหลี่ยมเหนือสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาที่ดูผิดปกติไปจากกลุ่มเมฆทั่วๆไป นักอุตุนิยมวิทยาเชื่อว่า กลุ่มเมฆเหล่านี้ คือเมฆระเบิด ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่านี่เป็นสาเหตุหลักของการระเบิดที่ร้ายแรงของอากาศ ที่ส่งผลทำให้เกิดพายุที่มีความเร็วลมถึง 170 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 274 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

ซึ่งลมพายุที่มีความรุนแรงขนาดนี้สามารถสร้างคลื่นที่มีความสูงได้มากกว่า 45 ฟุต ไม่มีเรือลำไหนสามารถรอดไปจากคลื่นยักษ์นี้ได้ ไม่มีเครื่องบนลำไหนสามารถรอดไปจากพายุที่มีความเร็วลงถึง 274กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปได้อย่างไรก็ตามการตัดสินด้วยภาพดาวเทียมนั้นไม่สามรถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซนต์ว่า นี่คือสาเหตุหลักในการหลักในการหายไปของเรือและเครื่องบินทั้งหมด

จากการนำเสนอทฤษฎีเมฆระเบิดออกไปได้มีแรงผลักดัน ให้เกิดการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพอากาสบริเวณสาเหลี่ยมเบอร์มิวดา ซึ่งในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกก็ยังคงหาสาเหตุที่แท้จริงขิงความลึกลับนพื้นที่อันโด่งดังขิงโลกที่ชื่อว่า “สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา”

 

สนับสนุนโดย.    ufa สล็อตแตกบ่อย

จักรวรรดิอาณานิคมฝรั่งเศส

Published / by admin

จักรวรรดิอาณานิคมฝรั่งเศส  จักรวรรดิอาณานิคมฝรั่งเศสเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ในศตวรรษที่ 16  16 สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ยุคคือจักรวรรดิอาณานิคมฝรั่งเศสที่ 1 ปี 1534 ถึง 1814 และจักรวรรดิอาณานิคมฝรั่งเศสที่ 2 ปี 1830 ถึง 1980 ซึ่งในยุคที่ 2 นั้นมีความยิ่งใหญ่กว่ายุคแรกในแง่ของพื้นที่จักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 2 เคยมีอาณาเขตสูงสุดถึง 12.3 ล้านตารางกิโลเมตร

และประชากรในจักรวรรดิกว่า 11 2.9 ล้านคนภายในจักรวรรดิฝรั่งเศสประกอบไปด้วยอาณานิคมโพ้นทะเลในอารักขาและบริเวณต่างๆที่อยู่ภายใต้รัฐบาลณกรุงปารีสพื้นที่ส่วนใหญ่ในทวีปแอฟริกาแถบแคริบเบียนอเมริกาเหนือและใต้รวมถึงบางส่วนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

      จักรวรรดิฝรั่งเศสเสื่อมอำนาจลงจากการทำสงครามกับประเทศในอาณานิคมเวียดนามปี 1955 และแอลจีเรียปี 1962 นำมาสู่การเริ่มประกาศเอกราชของชาติต่างๆภายใต้อาณานิคมโดยมีวานูอาตู เป็นประเทศสุดท้ายที่ได้รับอิสรภาพในปี 1980 ของจักรวรรดิ 

     จักรวรรดิจีน

        ยุคราชวงศ์ชิงราชวงศ์ชิงเป็นราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองประเทศจีนด้วยระบอบกษัตริย์ก่อนที่จะเกิดการปฏิวัติขึ้นราชวงศ์ชิงไม่ได้ก่อตั้งโดยชาวฮั่นที่เป็นชนหมู่มากของประเทศแต่เป็นชาวแมนจูชนกลุ่มน้อยร่อนเท่านั้นเพื่อชาวแมนจูเผ่า newgen อาศัยช่วงที่ราชวงศ์หมิงและเสถียรภาพจัดตั้งกองทัพแปดกองธงที่มีหลากหลายชนเผ่านำโดยหวังไท่จี๋ขับไล่กองทัพ ของราชวงศ์หมิงไปได้สำเร็จและขึ้นเป็นกษัตริย์ในภายหลัง

       สำหรับในสมัยของจักรพรรดิคังซี  รวมถึงจักรพรรดิยงเจิ้งและจักรพรรดิเฉียนหลงเป็นยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ชิงที่บ้านเมืองสงบสุขมากกว่าร้อยปีก่อนที่ราชวงศ์ชิงจะเริ่มเข้าสู่ยุคเสื่อมถอยจากความล้มเหลวในการปกครองประเทศการฉ้อราษฎร์บังหลวงของคุณนางรวมถึงการแพ้สงครามฝิ่น

ถึง 2 ครั้งกับอังกฤษจนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมากทำให้ราชวงศ์ชิงเริ่มถูกประชาชนต่อต้านมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงที่สุดระบอบกษัตริย์ของจีนก็ล่มสลายจากปฏิวัติซินไฮ่ที่นำโดยซุนยัดเซ็นยุติการปกครองจีนไว้ที่ 276 ปีครั้งหนึ่งราชวงศ์ชิงเคยมีอาณาเขตกว้างขวางถึง 13.1 ล้านตารางกิโลเมตรและประชากรกว่า 381 ล้านคนที่คิดเป็นกว่า 1 ใน 3 ของประชากรโลกในยุคนั้น 

จักรวรรดิจีนยุคราชวงศ์หยวน 

   จักรวรรดิจีนในยุคราชวงศ์หยวนมีอาณาเขตใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยพื้นที่ถึง 14 ล้านตารางกิโลเมตรหรือคิดเป็นร้อยละ 9.4 ของพื้นที่โลกทั้งหมดราชวงศ์หยวนขึ้นปกครองจีนเมื่อปี 1268 ก่อตั้งโดยผู้นำเผ่ามองโกล ที่โค่นอำนาจของราชวงศ์ซ่งลงได้สำเร็จและขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์ราชวงศ์หยวนปกครองจักรวรรดิจีนอยู่ได้ 97 ปี

ก่อนที่จะถูกจูหยวนจางโค่นล้มก่อนที่จะสถาปนาราชวงศ์หมิงและตั้งตนเป็นจักรพรรดิผงอู่ในภายหลังในยุคของราชวงศ์หยวนได้เกิดการเริ่มทำธนบัตรขึ้นเพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนและชื่อราชวงศ์ ยังเป็นที่มาของชื่อสกุลเงินหยวนของจีนอีกด้วย 

 

สนับสนุนโดย.   ufabet บาคาร่า