คุณเคยสงสัยหรืป่าวว่าที่อำเภอสูงเนินนั้นมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างไรที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์และมีอยู่อายุมาหลายช่วงอายุคนนอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์โบราณคดีก็ยังให้ข้อสงสัยกันอีกว่าน่าจะมีวัถุโบราณชิ้นส่วนอื่นๆหลงเหลืออยู่บ้างจากนั้นก้ได้พบปราสาทเก่าแก่ที่มีอายุมาหลายพันปี
นอกจากโบราณสถาน3แห่งในเขตอำเภอสูงเนิน
ซึ่งล้วนเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับอิทธิพลศิลปะมาจากขอมโบราณทั้งสิ้นนั่นก็คือปราสาทเมืองแขกปราสาทโนนกู่และปราสาทเมืองเก่าปราสาทเมืองแขกเป็นปราสาทศิลปะขอมที่ได้สร้างจากหินทรายผสมผสานด้วยอิฐซึ่งถือว่ามีขนาดที่ใหญ่แห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมาและยังมีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมดูแตกต่าง
จากปราสาทของหลังอื่นๆที่ได้พบอยู่ในพื้นที่ไกล้เคียงแผ่นผังของการสร้างปราสาทนั้นด้านในสุดเป็นปราสาทสามหลังตั้งอยู่บนฐานด้วยกันหันหน้าไปทางทิศเหนือปราสาทประทานองค์กลางมีมุกต่อออกมาจากทางด้านหน้าแบบที่เรียกว่ามนดกแต่ปรางค์ด้านซ้ายขาวได้แตกหักเสียงหายเหลือแต่แค่เพียงฐาน เช่นด้วยกับอาคารสองหลังทางด้านข้างของปรางค์ประทาน
ซึ่งมันคงจะเป็นวิหารอาคารทั้งหมดได้ตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงแก้วที่ก่อด้วยอิฐจากนั้นก้ได้มีการขุดคูน้ำค้นดินกั้นเอาไว้อีกชั้นหนึ่งจากนั้นถัดออกมาจากคูน้ำยังมีการสร้างกำแพงเป็นแนวที่สองโดยมีแนวทางเดินเชื่อมผ่านโคปูระหรือซุ้มประตากปรางค์ประทานสู่ภายข้างนอกและในส่วนภสยด้านนอกกำแพงจะมีด้านนอกอีกสองหลัง
ที่มีขนาดค่อนข้างที่จะใหญ่และได้สร้างหันหน้าเข้าหากันซึ่งในปัจจุบันนั้นจะเหลือแค่เพียงฐานและส่วนตัวของอาคารหน้าจะสร้างด้วยไม้จึงได้ผุกพังไปหมดจนไม่เหลือเคาโครงให้เห็นจากการที่ได้ขุดแต่งบริเวณปราสาทของกรม ศิลปากรก็ได้พบหลักฐานเป็นโบราณวัถุหลายชิ้นเช่นทบหลังศิสาจารึก
รวมไปถึงศิวารึงฐานศิวารึงและลูกโคนนทิซึ่งได้สามารถบ่งชี้ให้เห็นว่าปราสาทในเมืองแขกแห่งนี้ได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสตร์สถานในศาสนาพราหมณ์และทิไศวะนิกายหรือฮินดูเพื่อประกอบเป็นพิธีถวายพะรศิวะหรือพระอิศวรซึ่งได้เป็นเทพเจ้าที่ได้รับการยกย่องให้เป็นใหญ่เหนือเทพเจ้าทั้งปวง
ห่างออกไปจากปราสาทเมืองแขกเพียงไม่กี่ร้อนเมตรคือที่ตั้งของ ปราสาทโนนกู่ ซึ่งได้เป็นปราสาทอีกหลังของเมืองโคราฆปูระปราสาทโนนกู่เป็นปราสาทขนาดเล็กสสร่างด้วยอิฐและหินทรายสันนิษฐานว่าได้สร้างขึ้นในเวลสไกล้เคียงกันกับปราสาทเมืองแขกคือในราวกลางศตวรรษที่15และยังเป็นศาสตร์สถานฮินดูเช่นเดียวกันแผ่นผังของการสร้างปราสาทเป็นรูปสี่เหลี่ยมพื้นผ้ามีโคปูระและซุ้มประตูทั้งสองข้างคือทางด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก