ประวัติจังหวัดลำพูนในยุคสมัยต้นรัตนโกสินทร์ 

    สำหรับใครที่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศไทยจะรู้ว่าประเทศไทยนั้นมีหลายยุคหลายสมัยมาแล้วซึ่งมีมาตั้งแต่ยุคสุโขทัยรวมถึงยุคอยุธยาและยุครัตนโกสินทร์

ประวัติจังหวัดลำพูน อย่างไรก็ตามในบทความนี้เราจะมาพูดถึงประวัติความเป็นมาของจังหวัดลำพูนซึ่งเป็นช่วงในยุคของรัตนโกสินทร์ตอนต้นซึ่งหลายคนนั้นอาจจะเคยศึกษาข้อมูลกันบ้างแล้วแต่ยังคงมีอีกหลายคนที่ยังคงไม่รู้จักประวัติของจังหวัดลำพูนในสมัยยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นนั้นมีความเป็นมาอย่างไรนั่นเอง

อย่างไรก็ตามในสมัยยุคและโกสินทร์ตอนต้นของจังหวัดลำพูนนั้นเกิดช่วงประมาณทศวรรษที่ 24-25 ซึ่งในช่วงดังกล่าวนั้นเป็นช่วงที่การปกครองของจังหวัดลำพูนนั้นยังคงเป็นการปกครองในอาณาจักรล้านนาหรือที่เราเรียนกันว่าดินแดนล้านนานั่นเองซึ่งในยุคดังกล่าวนั้นถือได้ว่าเป็นยุคที่มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดเกี่ยวกับทางด้านพระพุทธศาสนาอะไรก็ว่าได้

แต่ในขณะเดียวกันในความเจริญรุ่งเรืองก็มีการทำศึกสงครามเนื่องจากว่าในยุคดังกล่าวนั้นเป็นยุคที่พม่าพยายามที่จะเข้ามาครอบครองอาณาจักรล้านนาของไทยนั่นเองดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าในช่วงพุทธศตวรรษที่ 24-25 นั้นเป็นช่วงที่ประชาชนนั้นต้องเดือดร้อนเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าประชาชนต้องพากันหลบหนีสงครามที่พม่าพยายามเข้ามายึดครองประเทศทำให้ชาวบ้านนั้นต้องทิ้งเมืองทำให้บ้านเมืองในยุคดังกล่าวนั้นถูกปล่อยทิ้งร้างเอาไว้

ซึ่งยุคดังกล่าวนั้นนอกจากเราจะรู้ว่าเป็นยุคของรัตนโกสินทร์ตอนต้นแล้วยังอาจกล่าวได้ว่าเป็นยุคเก็บผักใส่ช้าเก็บค่าใส่เมืองนั่นเอง 

ในช่วงยุคสมัยของรัตนโกสินทร์ตอนต้นหรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นยุคเปลี่ยนผ่านจากอาณาจักรล้านนามาเป็นการปกครองของรัตนโกสินทร์นั้นช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเจ้าเมืองเชียงใหม่ที่มีการปกครองประชาชนและดูแลราษฎรนั้นก็คือพระยาบุรีรัตน์หรือที่เรียกกันในนามคำฝั้น 

โดยพระยาบุรีรัตน์นั้นได้เข้ามาดูแลประชาชนชาวเมืองเชียงใหม่ให้พากันอพยพมาอยู่ที่เมืองลำพูนแทนและให้ประชาชนนั้นสร้างบ้านเรือนตั้งถิ่นฐานอยู่ใกล้กับแม่น้ำได้แก่ริมแม่น้ำปิงและริมแม่น้ำกวงซึ่งชาวบ้านที่อพยพมาอยู่แถวพื้นที่บริเวณดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่เป็นคนชาวยองดังนั้นวัฒนธรรมของชาวจังหวัดลำพูนในยุคปัจจุบันนั้นจึงมีการนำศิลปะและวัฒนธรรมของชาวยองมาใช้มาจนถึงปัจจุบัน

หลังจากที่เข้าสู่ยุคสมัยของรัตนโกสินทร์ตอนต้นซึ่งไทยสามารถทำสงครามขับไล่พม่าออกจากประเทศได้ทำให้ประชาชนอยู่กันอย่างมีความสุขเรียกได้ว่าเป็นยุคที่บ้านเมืองสงบสุขร่มเย็นดังนั้นหลังจากที่ไม่มีศึกสงครามใดๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานช่างต่างๆรวมถึงศิลปะและวัฒนธรรมจึงมีการพัฒนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นนั่นเอง 

 

สนับสนุนข้อมูลโดย   ufabet เว็บหลัก