คลังเก็บหมวดหมู่: ศิลปะ

ประวัติ ศาลเจ้าแม่ประดู่  ย่านเยาวราช

Published / by admin

ศาลเจ้าแม่ประดู่เป็นศาลเจ้าเก่าแก่แห่งหนึ่งในย่านเยาวราช ซึ่งเป็นย่านคนจีนที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเป็นมาที่ยาวนานและมีความสำคัญทางด้านศาสนา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของชุมชนชาวจีนในประเทศไทย

ประวัติความเป็นมา

ศาลเจ้าแม่ประดู่มีอายุหลายร้อยปีและเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในเยาวราช มีการบันทึกว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายประมาณช่วงต้นของศตวรรษที่ 18 อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานชัดเจนถึงปีที่สร้าง แต่สันนิษฐานว่าสร้างโดยชาวจีนที่อพยพเข้ามาตั้งรกรากในสยามในช่วงนั้น

ศาลเจ้าถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่สักการะและบูชาของเจ้าแม่ประดู่ ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ชาวจีนเชื่อว่าเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองและนำพาความเจริญรุ่งเรืองให้กับชุมชน

ความสำคัญทางศาสนา

ศาลเจ้าแม่ประดู่เป็นสถานที่สักการะบูชาที่มีความสำคัญต่อชาวจีนในย่านเยาวราชและพื้นที่ใกล้เคียง เชื่อกันว่าเจ้าแม่ประดู่เป็นเทพเจ้าที่คอยปกป้องคุ้มครองผู้คนให้รอดพ้นจากภัยอันตรายต่าง ๆ รวมทั้งช่วยในการทำมาค้าขายและให้โชคลาภ

ในช่วงเทศกาลสำคัญของชาวจีน เช่น เทศกาลตรุษจีนและเทศกาลไหว้เจ้า ศาลเจ้าแม่ประดู่จะมีผู้คนหลั่งไหลมาสักการะและทำบุญเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ศาลเจ้ายังเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญของชุมชนชาวจีนในพื้นที่นี้

ลักษณะทางสถาปัตยกรรม

ศาลเจ้าแม่ประดู่เป็นตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่มีความสวยงามและประณีต ตัวอาคารของศาลเจ้าเป็นอาคารชั้นเดียวที่มีหลังคาทรงจั่ว มีการประดับตกแต่งด้วยลวดลายมังกรและดอกไม้ที่แกะสลักอย่างละเอียด ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของศิลปะจีนโบราณ ภายในศาลเจ้ามีแท่นบูชาหลัก

ซึ่งประดิษฐานเจ้าแม่ประดู่ พระพุทธรูป และเทพเจ้าต่าง ๆ ที่เป็นที่เคารพบูชาของชาวจีน นอกจากนี้ ยังมีเครื่องใช้ในพิธีกรรมและสิ่งของต่าง ๆ ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

 

 ความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์

ศาลเจ้าแม่ประดู่ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่สักการะทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางของชุมชนชาวจีนในย่านเยาวราชที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของพื้นที่นี้ ชาวจีนที่อาศัยอยู่ในย่านเยาวราชนับถือศาลเจ้าแม่ประดู่เป็นศูนย์รวมทางจิตวิญญาณของพวกเขา

ความศรัทธาในเจ้าแม่ประดู่ได้ส่งเสริมให้เกิดการรวมตัวกันของชุมชน และการสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมจีนที่เข้มแข็ง นอกจากนี้ ศาลเจ้าแม่ประดู่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือและความสามัคคีของชุมชนชาวจีนในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย

ปัจจุบัน ศาลเจ้าแม่ประดู่ยังคงเป็นสถานที่สักการะที่มีผู้คนเข้ามาเยี่ยมชมและสักการะอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ในช่วงเทศกาลสำคัญเท่านั้น แต่ตลอดทั้งปี ผู้คนยังคงมาขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ ศาลเจ้าแม่ประดู่ยังได้รับการดูแลรักษาและบูรณะให้คงสภาพเดิมไว้ เพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและศาสนาที่สำคัญสำหรับชนรุ่นหลัง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย        หวยดี

ดาวที่ใกล้โลกมีอะไรบ้าง

Published / by admin

ดาวที่ใกล้โลกมีหลายดวงที่มีส่วนที่เราสามารถมองเห็นได้ในท้องฟ้าดึก และมีบางดวงที่อาจมีผลกระทบต่อโลกได้มากน้อยต่างกัน ดาวที่ใกล้โลกสำคัญที่สุดคือดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญสำหรับชีวิตบนโลก นอกจากนี้ยังมีดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ที่สามารถมองเห็นได้บนท้องฟ้าในระหว่างคืน

ดาวเคราะห์ที่สำคัญที่สุดคือดวงจันทร์ ซึ่งเป็นดวงจันทร์ที่ดวงอาทิตย์หวงไว้ ซึ่งมีผลกระทบต่อการสร้างกระตุ้นได้ในประเด็นต่าง ๆ รวมทั้งกระบวนการทางธรรมชาติเช่นน้ำทะเลที่มีการสัญญาณน้อยที่สุดที่ทราบถึงทั้งโลกและจันทร์

นอกจากนี้ยังมีดาวเคราะห์อื่น ๆ ที่เรียกว่าดาวเคราะห์น้อย (Minor planets) หรือเอสเทอรอยด์ (Asteroids) และดาวเคราะห์แสง (Comets) ที่มีขนาดเล็กกว่าดวงจันทร์และไม่ได้มีผลกระทบต่อโลกมากนัก และในระบบดวงอาทิตย์ยังมีดาวเคราะห์ดวงดารา (Planets)

ทั้งหมด 8 ดวงที่เคยถูกบันทึกไว้ คือ ดาวเคราะห์พุธ, ดาวเคราะห์ศุกร์, ดาวเคราะห์โลก, ดาวเคราะห์อังคาร, ดาวเคราะห์พฤหัส, ดาวเคราะห์เสาร์, ดาวเคราะห์อุรานัส, และดาวเคราะห์นีปจูเตอร์ โดยศุกร์ถูกคัดเลือกว่าเป็นดาวเคราะห์ที่ใกล้โลกที่สุดในระบบดวงอาทิตย์ 

 

ดาวที่มองจากโลกแล้วสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ดาวที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากโลกมีจำนวนมากและเป็นที่รู้จักกันมากมาย เรามักเรียกดาวที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าว่า “ดาวที่สว่าง” (naked-eye planets) ซึ่งรวมถึงดวงอาทิตย์, ดวงจันทร์, ดาวเคราะห์ดวงดารา, และ 5 ดาวเคราะห์อื่น ๆ ที่สามารถมองเห็นได้ในท้องฟ้าดึกได้ด้วยตาเปล่า โดยไม่ต้องใช้กล้องหรือเครื่องมือช่วย

1.ดวงอาทิตย์ (Sun): ดวงอาทิตย์เป็นแหล่งแสงที่สว่างที่สุดในระบบดวงอาทิตย์และเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญสำหรับชีวิตบนโลก

2.ดวงจันทร์ (Moon): ดวงจันทร์เป็นดวงจันทร์ที่ดวงอาทิตย์หวงไว้ และมีการเปลี่ยนรูปร่างตลอดเวลา.

3.ดาวเคราะห์ดวงดารา (Jupiter, Saturn, Mars, Venus, Mercury): 5 ดาวเคราะห์นี้อยู่ในระบบดวงอาทิตย์และมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า บางครั้งที่เรียกดาวเคราะห์นี้ว่า “ดาวสว่าง” เนื่องจากมีการส่องเรืองแสงที่เป็นเอกลักษณ์

การมองเห็นดาวที่สว่างด้วยตาเปล่านั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ, แสงเมือง, และตำแหน่งของดาวในท้องฟ้า ดาวเคราะห์ดวงดาราสามารถมองเห็นได้ตลอดปี, แต่บางดาวอาจจะมีเวลาที่มองเห็นได้น้อยเช่น ดาวเคราะห์พฤหัส (Jupiter) และ ดาวเคราะห์เสาร์ (Saturn) ที่มักจะเห็นในช่วงเวลาที่ท้องฟ้ามืด

ทีมอวกาศอังกฤษโปรเจค “สคายาปูเตอร์” (Skycrane) ที่ส่งโรเวอร์ “พีเอชเอลโล” (Perseverance) ไปสำรวจพื้นผิวดาวอังคารในปี 2021 คือตัวอย่างล่าสุดที่ทำการส่งโรบอตไปยังดาว

การส่งมนุษย์ไปยังดาวคืองานที่ท้าทายมาก เนื่องจากต้องตอบสนองต่อปัญหาทางเทคนิค, การอนุบาลความเสี่ยงในการใช้เวลาที่ยาวนานในอวกาศ, และการจัดหาอาหารและทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการรอดชีวิตในการมองเห็นที่ยาก ในปัจจุบัน, ยังไม่มีแผนที่จะส่งมนุษย์ไปยังดาวในอนาคตที่ใกล้

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    huaydee

อุกกาบาตกับการพุ่งชนดวงจันทร์ 

Published / by admin

       สำหรับใครที่ศึกษาเกี่ยวกับอวกาศมาจะรู้ดีว่าดาวเคราะห์น้อยรวมถึงดาวหางและอุกกาบาตโดยปกติแล้วสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้เคลื่อนที่ผ่านทางอวกาศด้วยความเร็วสูงดังนั้นพวกมันจึงมีพลังในการทำลายล้างสูงเช่นเดียวกัน

และเมื่อเกิดการพุ่งชนกับดาวเคราะห์หรือดวงจันทร์ขึ้นหินแข็งจะถูกทำลายทันทีและทิ้งร่องรอยที่เรียกว่าหลุมอุกกาบาตเอาไว้ 

          อย่างไรก็ตามจากการค้นคว้าข้อมูลของนักวิทยาศาสตร์พบว่าการพุ่งชนทำให้เกิดหลุมอุกกาบาตบนพื้นผิวของดาวเคราะห์หินและดวงจันทร์จำนวนนับไม่ถ้วนดังนั้นดวงจันทร์จึงมีหลุมอุกกาบาตเป็นจำนวนมากและด้วยสภาพแวดล้อมทำให้หลุมอุกกาบาตยังคงสภาพเดิมมาได้หลายพันล้านปีต่างกับโรคที่พบหลุมอุกกาบาตไม่มากนัก 

      นอกจากนี้ลูกละบาทจำนวนมากบนดวงจันทร์เกิดขึ้นในช่วงแรกของการมีระบบสุริยะตอนที่ดาวเคราะห์ชั้นในระเบิดจากอุกาบาตที่พุ่งชนเนื่องจากพื้นผิวโลกเกิดการกร่อนและมีแรงอื่นมากระทำตลอดเวลา  อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าปัจจุบันการพุ่งชนของอุกกาบาตเกิดขึ้นได้ยากแต่ถึงอย่างไรโลกของเราก็ยังมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการพุ่งชนอยู่มากเช่นเดียวกัน 

        สำหรับการพุ่งชนดวงจันทร์นั้นแรงระเบิดของการพุ่งชนของอุกกาบาตไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดเพียงอย่างเดียวแต่มันขึ้นอยู่กับความเร็วของอุกกาบาตด้วยซึ่งโดยปกติแล้วอุกาบาตจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วอยู่ที่ประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงดังนั้นเมื่อมันชนกับวัตถุอย่างดวงจันทร์จึงทำให้เกิดพลังงานจนมากถึง 1000 เท่าของก้อนหินขนาดเดียวกัน

ที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วของรถยนต์ซึ่งการที่อุกกาบาตพุ่งชนพลังงานจนมหาศาลก็จะถูกเปลี่ยนเป็นความร้อนทำให้หินในบริเวณที่ถูกชนละลายหรือระเหยกลายเป็นแก๊สทันทีนั่นเอง 

        อย่างไรก็ตามโดยปกติแล้วบริเวณที่เกิดการพุ่งชนจะละลายไปและทิ้งไว้เพียงแค่ร่องรอยของแร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบของอุกกาบาตเช่นแร่ธาตุโซเดียมในบริเวณที่มันพุ่งชนเท่านั้น นอกจากนี้บริเวณชั้นใต้ฝุ่นของพื้นผิวของดวงจันทร์ก็จะพบว่าจะมีชั้นหินที่แตกร้าวจากการพุ่งชนของอุกกาบาต

อีกด้วยอย่างไรก็ตามจากการที่นักวิทยาศาสตร์ได้มีการสำรวจเกี่ยวกับดวงจันทร์จะพบว่าพื้นผิวของดวงจันทร์นั้นจะถูกปกคลุมด้วยฝุ่นละเอียดหนาเป็นชั้นๆที่เกิดจากการพุ่งชนเป็นพันๆครั้งจากอุกกาบาตนั่นเองซึ่งถึงแม้ว่าอุกกาบาตจะมีขนาดเล็กแต่การพุ่งชนของมันแต่ละครั้งก็จะทำให้เกิดหลุมอุกกาบาตซึ่งมีลักษณะรูปร่างคล้ายกับชามโดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณไม่เกิน 4 กิโลเมตร 

          อย่างไรก็ตามอย่างที่รู้กันดีว่าอุกาบาตนั้นไม่ได้มีการพุ่งชนเฉพาะแค่ดวงจันทร์เท่านั้นแต่มันยังพุ่งชนดาวเคราะห์ดวงอื่นๆมากมายรวมถึงโลกเองก็เคยถูกอุกกาบาตพุ่งชนเช่นเดียวกัน 

 

สนับสนุนโดย   เว็บหวยดี

เทคนิคที่จะช่วยให้เราวาดภาพเหมือนได้เหมือนมืออาชีพ

Published / by admin

การวาดรูปเหมือนมืออาชีพต้องการการฝึกฝนและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีเทคนิคที่สามารถช่วยให้การวาดเหมือนมืออาชีพได้ดังนี้

1.ฝึกซ้อมและศึกษา: ฝึกการวาดอย่างต่อเนื่องและศึกษาภาพอื่น ๆ ที่ช่างศิลป์มืออาชีพได้วาดขึ้นมา เริ่มต้นด้วยการวาดรูปภาพที่ง่ายๆ ก่อนแล้วค่อยๆ เรียนรู้เทคนิคเพิ่มเติมขึ้นเรื่อยๆ

2.ศึกษาเทคนิคและเทคโนโลยี: มีเทคนิคและเทคโนโลยีที่ช่วยในการวาดภาพเหมือนมืออาชีพ เช่น การใช้ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการปรับแต่งภาพ การใช้แท็บเล็ตและปากกาที่รองรับการวาดแบบดิจิตอล เป็นต้น

3.การศึกษาวิธีการวาดแบบต่างๆ: ศึกษาวิธีการวาดแบบต่างๆ เช่น การใช้เส้นสำหรับสร้างโครงร่างของภาพ การใช้แสงและเงา เป็นต้น

4.การฝึกสร้างร่าง: การเริ่มต้นด้วยการวาดเฉพาะส่วนของร่างของภาพ หรือวาดร่างของรูปภาพที่ต้องการโดยไม่ต้องคิดถึงรายละเอียด จากนั้นเพิ่มรายละเอียดเข้าไปเรื่อยๆ

5.การฝึกสมาธิ: การวาดต้องใช้ความสมาธิและความระมัดระวังในการสังเกตรายละเอียดของภาพ ซึ่งการฝึกสมาธิจะช่วยเพิ่มความสำคัญให้กับรายละเอียดที่ต้องการวาด

6.การฝึกสร้างความเป็นมืออาชีพ: การวาดต้องใช้เวลาและความอดทน เพื่อฝึกสร้างความเชี่ยวชาญในการวาดภาพ เรียนรู้จากความผิดพลาดและพัฒนาต่อยอดจากนั้น

7.การฝึกปรับปรุง: ไม่ควรกลัวที่จะลองวาดและทำการปรับปรุงภาพ การที่จะได้ฝึกและลองผิดพลาดจะช่วยให้เราพัฒนาทักษะในการวาดได้มากขึ้น

8.การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ: หาคำแนะนำและเคล็ดลับในการวาดภาพจากช่างศิลป์มืออาชีพ และศึกษาผลงานของพวกเขาเพื่อเรียนรู้เทคนิคและวิธีการทำงานของพวกเขา

การวาดภาพเหมือนมืออาชีพไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสามารถทางสมองเท่านั้น แต่มีความสำคัญในการฝึกและปรับปรุงทักษะทางด้านเทคนิค  เว็บหวยดี    และการมองเห็นในการวาดด้วยลูกตาและความสัมพันธ์ของมือและปากกาในการสร้างภาพสมจริง

มาตรฐานที่ต้องมีสำหรับนักวาดภาพสามารถแบ่งออกเป็นหลายด้านตามความสำคัญและความต้องการของงาน ดังนี้

1.ทักษะการวาดพื้นฐาน: การรู้จักใช้เครื่องมือวาดอย่างถูกต้องและการวาดโครงร่างของภาพ รวมถึงการเข้าใจและปฏิบัติตามหลักการเรื่องประสาทวิทยาของการวาดภาพ เช่น มุมมองที่ถูกต้อง ประสิทธิภาพในการใช้สัญลักษณ์ทางศิลปะ เป็นต้น

2.ความสามารถในการสร้างร่างแบบ: การสามารถสร้างร่างแบบของภาพอย่างแม่นยำและมีชีวิตชีวา โดยการเน้นที่สัดส่วนที่ถูกต้องและการเข้าใจโครงสร้างของวัตถุ

3.ความสามารถในการใช้สี: การรู้จักและสามารถใช้สีอย่างถูกต้อง การเรียนรู้เรื่องการผสมสี การสร้างเงาและแสง และความรู้ในด้านทฤษฎีสี

4.ความสามารถในการเสริมสร้างรายละเอียด: การเพิ่มรายละเอียดในภาพเพื่อให้มีความสมจริงและมีชีวิตชีวา เช่น การเพิ่มเส้นขอบ การเพิ่มรายละเอียดในแสงและเงา เป็นต้น

5.ความสามารถในการสร้างความสมจริงและสร้างอารมณ์: การสามารถสร้างภาพที่มีความสมจริงและสามารถสื่อถึงอารมณ์หรือความรู้สึกได้อย่างชัดเจน

6.การนำเสนองาน: การเรียนรู้วิธีการนำเสนองานศิลปะอย่างมืออาชีพ เช่น การจัดแสดงภาพ การสร้างสื่อสารที่เข้าใจง่าย เป็นต้น

7.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี: การรู้จักและสามารถใช้เทคโนโลยีและเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อช่วยในกระบวนการสร้างผลงาน เช่น ซอฟต์แวร์การวาดแบบ แท็บเล็ต หรือการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับการปรับแต่งภาพ

ความสามารถเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่นักวาดภาพควรพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถสร้างผลงานที่มีคุณภาพและมีความสมบูรณ์ได้แก่สภาพแวดล้อมและต้องการของงานที่ต้องการใช้งาน

วันสหประชาชาติ (United Nations Day)

Published / by admin

วันสหประชาชาติถูกกำหนดขึ้นตามคำแนะนำของนายแดนิเอล โฮล (Trygve Halvdan Lie) ซึ่งเป็นเลขาธิการสากลคนแรกของสหประชาชาติ โดยมีวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 1945 เป็นวันที่ก่อตั้งองค์การสหประชาชาติอย่างเป็นทางการ ซึ่งก่อตั้งขึ้นหลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อสร้างสันติภาพและความเอ็นใจที่แข็งแกร่งในโลกหลังจากสงครามโลก

รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประชากรทั่วโลกให้ดียิ่งขึ้นโดยทั่วไปแล้ว 24 ตุลาคม ถือเป็นวันสำคัญที่ทุกปี ในการเฉลิมฉลองและยกระดับความสำคัญของการทำงานของสหประชาชาติและความมุ่งมั่นในการสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนทั่วโลก

สาเหตุหลักที่มีการจัดตั้งวันสหประชาชาติขึ้น

สาเหตุหลักที่มีการจัดตั้งวันสหประชาชาติ (United Nations) เป็นเพื่อการสร้างสันติภาพและความเอ็นใจที่แข็งแกร่งในโลกหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง (World War II) ซึ่งสงครามโลกครั้งนี้เป็นสงครามที่เกิดขึ้นในมิศนาทราย โดยมีผลกระทบที่หนักหน่วงและเกิดความสั่นสะเทือนทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

การจัดตั้งสหประชาชาติมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อป้องกันการเกิดสงครามอย่างหนักและช่วยให้โลกมีสันติภาพและความเอ็นใจ นอกจากนี้ยังมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสำหรับประชาชนทั่วโลกโดยทั่วไป

การจัดงานสำหรับการเฉลิมฉลองวันสหประชาชาติ (United Nations Day) สามารถมีลักษณะและกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่

1.การจัดงานทางวัฒนธรรม: การแสดงศิลปะ การแสดงนาฏศิลป์ การแสดงการเต้นรำ หรือการแสดงละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความสันติภาพและความเอ็นใจที่สำคัญต่อประชาชนทั่วโลก

2.การจัดการอบรมและสัมมนา: เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพ การป้องกันการต่อสู้ และการสร้างความสัมพันธ์ทางระหว่างประชากร

3.การจัดกิจกรรมการออกกำลังกายหรือสมาธิ: เพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกายและจิตใจ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการสร้างสันติภาพในชุมชน

4.การจัดงานการถ่ายทอดความรู้: การสร้างสื่อการเรียนรู้ เช่น การจัดนิทรรศการ การแสดงภาพถ่าย หรือการสร้างวิดีโอเพื่อแสดงถึงความสำคัญของการสร้างสันติภาพและความเอ็นใจ

5.การจัดประชุมหรืออีเวนต์สาธารณะ: เช่น การสร้างพื้นที่สำหรับการสนทนา การเสวนา หรือการสร้างพื้นที่เพื่อให้ความสามารถในการนำเสนอความคิดเห็นและแนวคิดเกี่ยวกับความสำคัญของการสร้างสันติภาพในโลก

6.การจัดกิจกรรมสังคม: เช่น การจัดงานที่ทำให้ผู้คนมารวมตัวกัน เพื่อสร้างความเข้าใจและความสนับสนุนต่อหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพและความเอ็นใจ

7.การจัดงานที่เน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม: เพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมและการทำให้โลกเป็นสถานที่อยู่อาศัยที่ยั่งยืนและมั่นคงในอนาคต

นอกจากนี้ วันสหประชาชาติยังเป็นโอกาสในการเนรมิตความสำคัญของความสันติภาพ การเข้าใจกัน และความเอ็นใจในโลกใบนี้ โดยการจัดกิจกรรมต่าง ๆ และการแสดงความยินดีในวันนี้ จะช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าที่และบทบาทของสหประชาชาติในการสร้างโลกที่มีความสันติภาพและยั่งยืนได้อย่างเต็มที่

 

สนับสนุนโดย    หวยดี.com

ประวัติวันมาฆบูชา

Published / by admin

วันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญในศาสนาพุทธศาสนาที่เฉลิมฉลองในประเทศไทยและประเทศที่นับถือศาสนาพุทธ เป็นวันที่เฉลิมฉลองการเกิด การผ่านพระตำหนัก และการบรรจุสมณเทพของพระพุทธเจ้า เรียกว่าวันมาฆบูชา

เนื่องจากว่า พระโพธิสัตว์ทั้ง 2500 ตัวที่มาทรงเป็นพระครูสามเณรของพระพุทธเจ้า มารวมตัวกันในวันนี้โดยไม่มีนัดกลางกายก็มาเดินเพลิง ดังนั้นก็เลยเรียกวันนี้ว่าวันมาฆบูชา

วันมาฆบูชาจะตกที่วันเจริญพระพุทธเจ้า และจัดขึ้นในเดือนที่ 3 ของปฏิทินพุทธศักราช ซึ่งมีความหมายเป็นการเฉลิมฉลองทางศาสนาและวัฒนธรรม ในวันนี้ บวงสรวงกิจกรรมในวัด มีการจัดพิธีต่าง ๆ ให้พุทธศาสนิกชนเข้าร่วม รวมถึงการให้ทานข้าว ราดน้ำดื่ม และการทำบุญตามธรรมเนียมพุทธศาสนา

นอกจากนี้ เรายังเห็นว่าบางทีมีการฉลองวันมาฆบูชาโดยการประทับตัวเข้าวัดในวันเย็น อาจจัดพิธีเทศนาหรือการอ่านพระไตรปิฏกในช่วงเวลาเย็น เป็นต้น และมีกิจกรรมสร้างความศรัทธาต่อพระพุทธเจ้าอย่างเต็มความสามารถในวันมาฆบูชาด้วย

วันมาฆบูชาเป็นวันสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมของคนไทยและคนที่นับถือศาสนาพุทธทั่วโลก การฉลองวันนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นการทำบุญ เพื่อเป็นการสมารถเจริญประมาณในการตายของคุณหรือคนที่คุณรัก และเพื่อแสดงความอาลัยและความศรัทธาต่อพระพุทธเจ้า

 

สิ่งสำคัญในการฉลองวันมาฆบูชาที่นับถือกันอย่างแพร่หลายได้แก่

1.การทำบุญ (การทำประโยชน์): การทำบุญเป็นสิ่งสำคัญที่มีในวันมาฆบูชา เช่น การทำทาน การสมทบญาณ การทำสังฆทาน ซึ่งมีเป็นการทำเพื่อสาธารณะและเป็นการสมทบญาณต่อพระพุทธเจ้า

2.การนำพระเนตรเข้าวัด: บางที่จะเฉลิมฉลองวันมาฆบูชาโดยการนำพระเนตรเข้าวัดในช่วงเย็น เพื่อทำพิธีเทศนา อ่านพระไตรปิฏก และฟังธรรมะจากสามเณร

3.การสวดมนต์ การอ่านพระไตรปิฏก: การทำบุญโดยการสวดมนต์ การอ่านพระไตรปิฏก เพื่อแสดงความศรัทธาและความอาลัยต่อพระพุทธเจ้าในวันมาฆบูชา

4.การรับฟังธรรมะ: มีการจัดกิจกรรมที่ศาสนาและวัฒนธรรมในวันนี้เพื่อให้ผู้คนได้รับฟังธรรมะจากพระสงฆ์หรือผู้ทรงศาสนาเพื่อการพัฒนาจิตใจและสติปัญญา

5.การทำบุญราดน้ำดื่ม: การทำบุญโดยการราดน้ำดื่มแก่สัตว์ หรือรับวางน้ำดื่มไว้ที่วัดเพื่อให้สัตว์มีอาหารและเครื่องดื่ม

6.การแสดงความเคารพต่อพระพุทธเจ้า: บางครั้งมีการจัดพิธีเทิดพระพุทธเจ้าโดยการทำพระเวสสุคนธ์ การปฏิบัติธรรม และการเสด็จพระเพื่อเป็นการแสดงความเคารพและบูชา

7.การทำบุญในสถานที่สาธารณะ: ในบางที่ มีการจัดกิจกรรมทำบุญในสถานที่สาธารณะ เช่น การมอบข้าวที่วัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในวันมาฆบูชา

ทั้งนี้ เหตุการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ นี้มีความสำคัญในการเฉลิมฉลองและเป็นการเชื่อมโยงกับศาสนา วัฒนธรรม และความเชื่อของคนในชุมชนที่ศรัทธาพุทธศาสนา

 

สนับสนุนโดย    หวยดี

วันคริสต์มาส “Christ’s Mass”มีที่มาอย่างไร

Published / by admin

 คำว่า “คริสต์มาส” มาจากคำว่า “Christ’s Mass” ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองที่คริสต์มหาวิทยาลัยจักรวรรดิโรมันกำหนดให้มีอย่างเป็นทางการเมื่อคริสต์มาสที่ 25 ธันวาคม

ซึ่งเป็นวันที่แสงแห่งความหวังและความสันตะวันอร่อยมายังโลกใบนี้ การฉลองคริสต์มาสเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีและวัฒนธรรมของชาวคริสต์ทั่วโลกในปัจจุบัน

 

ประวัติของวันคริสต์มาสมีทั้งประวัติศาสตร์และประวัติศาสนา

1.รากฐานประวัติศาสตร์: เริ่มต้นขึ้นในยุคโบราณ ก่อตั้งขึ้นเพื่อฉลองการเกิดของพระเยซูคริสต์ ในต้นศตวรรษที่ 4 หลังจากที่คริสต์นิกายก่อตั้งขึ้น เป็นการรวมสมบัติศาสนาการลงมือปฏิบัติ และประเพณีเก่าๆ เช่น การฉลองเข้าศาสนาโบราณ ที่มีการบรรยายเรื่องเกี่ยวกับการกลายพระของพระเยซู กำหนดให้เป็นวันเฉลิมฉลองของพระองค์ในวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีความสำคัญในศาสนาโบราณเป็นเวลานาน

2.การรับสืบทอดของประเพณี: ขณะที่คริสต์นิกายก่อตั้งขึ้น ประเพณีของวันคริสต์มาสได้รับการรับสืบทอดและพัฒนาต่อไป ซึ่งผ่านการผสมผสานกับประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่นในแต่ละที่ ทำให้มีลักษณะเฉพาะของแต่ละสถาบันคริสต์ในแต่ละภูมิภาค

3.สัญลักษณ์ของวันคริสต์มาส: ซึ่งสัญลักษณ์ที่มักจะเกี่ยวข้องกับวันนี้ได้แก่ ต้นคริสต์มาส (Christmas tree) ที่เกิดมาจากประเพณีโบราณของการปลูกต้นไม้ในช่วงฤดูหนาว เช่น ต้นสน และการใส่ตุ๊กตาบนต้นคริสต์มาส นอกจากนี้ยังมีพวกของและการแต่งบ้านในลักษณะของคริสต์มาส

4.วิวัฒนาการในศตวรรษที่ 20: ในศตวรรษที่ 20 คริสต์มาสได้รับการค้าขายและเป็นเหตุให้มีการสร้างความสนใจอย่างกว้างขวางในการฉลองเหตุการณ์นี้ทั่วโลก โดยมีการค้าขายและการบริโภคอย่างมากมาย และมีการสร้างสินค้าที่เกี่ยวข้องกับคริสต์มาสในทุกประเทศ

5.ศาสนาและวัฒนธรรม: ในปัจจุบัน วันคริสต์มาสมีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรม โดยมีการฉลองด้วยพิธีการคริสต์มาสในโบสถ์ และกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การแจกของ การเล่าเรื่องราวของพระเยซู และการรวมตัวกับครอบครัวและเพื่อนฝูงในช่วงเวลานี้

วันคริสต์มาสเป็นเวลาที่มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมสำหรับชาวคริสต์ทั่วโลกและมีการเฉลิมฉลองและกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกันในทุกภูมิภาคของโลก

ประเทศอะไรบ้างที่ให้ความสำคัญกับวันคริสต์มาส

วันคริสต์มาสมีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งมีบางประเทศที่มีการเฉลิมฉลองและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวันนี้อย่างสำคัญ

1.สหรัฐอเมริกา: วันคริสต์มาสเป็นวันหยุดทางชาติในสหรัฐอเมริกา มีการฉลองและกิจกรรมต่างๆ เช่น การแต่งต้นคริสต์มาส การส่งการ์ดคริสต์มาส และการจัดงานเลี้ยงครอบครัวร่วมกัน

2.อังกฤษ: อังกฤษเป็นบ้านของการฉลองคริสต์มาสโดยมีการจัดงานเฉลิมฉลองในลอนดอนและเมืองอื่นๆ ในประเทศ เช่น การแสดงลิขิตเกี่ยวกับคริสต์มาส การแต่งต้นคริสต์มาสใหญ่ และการแสดงเคลื่อนไหวในสี่เหลี่ยมเพื่อเฉลิมฉลอง

3.เยอรมนี: ในเยอรมนี วันคริสต์มาสมีความสำคัญอย่างมาก มีการฉลองด้วยการไปโบสถ์และงานเลี้ยงครอบครัวร่วมกัน

4.อิตาลี: ในอิตาลี มีการฉลองคริสต์มาสอย่างสวยงาม มีการจัดแสดงลิขิตและเลี้ยงครอบครัวร่วมกันในวันหยุด

5.โปแลนด์: ในโปแลนด์ มีการเฉลิมฉลองคริสต์มาสด้วยการแต่งต้นคริสต์มาส การแสดงที่โบสถ์ และการเปิดของของขวัญ

6.ฟิลิปปินส์: ในฟิลิปปินส์ มีการฉลองคริสต์มาสอย่างเป็นที่นิยม มีการจัดงานแสดงและการบรรเลงเพลงคริสต์มาสในวันนี้

นอกจากนี้ยังมีประเทศอื่นๆ ที่มีการเฉลิมฉลองคริสต์มาสอย่างสำคัญอย่างเช่น แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แต่ละประเทศมีวิธีและกิจกรรมที่เฉลี่ยต่างกันไปตามวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละท้องถิ่น

 

สนับสนุนโดย    Huaylike

ภูเขาใต้แอนตาร์กติกา  ปริศนาที่แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบได้

Published / by admin

           เมื่อพูดถึงแอนตาร์กติกาเชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันมากนักนอกจากคนที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของแผนที่ภูมิศาสตร์ถึงจะสามารถรู้ได้ว่าแอนตาร์กติกาในก็คือทวีป ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายทวีปที่มีอยู่ทั่วโลกอยู่ในตอนนี้สำหรับทวีปอเมริกาเหนือเป็นทวีปที่ห่างไกลจากผู้คนห่างไกลจากความสนใจ

ภูเขาใต้แอนตาร์กติกา ทำให้เราไม่ค่อยรู้จักกันมากนักเพราะคนส่วนใหญ่มักจะรู้จักกับทวีปเอเชียและทวีปแอฟริการวมถึงทวีปอเมริกาเป็นต้น 

          ยังไงก็ตามสำหรับหลายคนที่มีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องทวีปแผนภูมิประเทศต่างๆรวมถึงนักวิทยาศาสตร์นั้นต่างก็มีการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของแอนตาร์กติกากันซึ่งหลายคนที่เคยศึกษาหาข้อมูลก็มีความเชื่อต่างๆกันออกไปโดยความเชื่อส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าภายใต้พื้นน้ำแข็งในเขตแอนตาร์กติกานั้นมีความลับ ซ่อนอยู่ 

บางคนเชื่อว่าเนื่องจากว่าแอนตาร์กติกาน้ำเป็นพื้นที่ห่างไกลที่คนไม่ค่อยนิยมเดินทางไปกันจึงทำให้ที่นี่นั้นอาจจะกลายเป็นฐานลับของมนุษย์ต่างดาว

ซึ่งอยู่ภายใต้น้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติกาก็เป็นไปได้ รวมถึงนักวิทยาศาสตร์บางคนก็มีแนวความคิดว่าภายใต้พื้นน้ำแข็งของแอนตาร์กติกานั้นจะเป็นพื้นที่กลวงสามารถเดินทางทะลุไปยังแก่นกลางของโลกก็เป็นไปได้ 

           อย่างไรก็ตามสิ่งที่พูดมาข้างต้นนั้นเป็นเพียงแค่ทฤษฎีสมคบคิดเท่านั้นแต่ก็ไม่มีใครที่จะสามารถรู้ได้ว่าภายใต้ แอนตาร์กติกาภายใต้น้ำแข็งมีอะไรซ่อนอยู่ซึ่งยังคงปริศนาให้กับนักวิทยาศาสตร์ได้สนใจที่จะเข้าไปศึกษาหาความรู้  แล้วก็ตามนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าภายใต้เทือกเขาอันกว้างใหญ่ซึ่งมีน้ำแข็งปกคลุมอยู่นั้น น่าจะมีเทือกเขาซุกซ่อนอยู่

ซึ่งพวกเขาที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าอยู่ใต้พื้นน้ำแข็งของแอนตาร์กติกา นั้นมีชื่อเรียกว่า Gamburtsev Mountain โดยเชื่อว่าเทือกเขานี้น่าจะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 3 กิโลเมตรนอกจากนี้ยังมีความกว้างถึง 1,200 กิโลเมตรเลยทีเดียว 

          อย่างไรก็ตามด้วยความสนใจของนักวิทยาศาสตร์จึงได้มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มีการส่องเข้าไปภายใต้พื้นผิวน้ำแข็งเพื่อดูถูกเขาดังกล่าว

ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เองก็ยังคงสงสัยว่าชั่วคราวนี้มันก่อก่อตัวขึ้นมาได้อย่างไรและมันทำยังไงมันถึงจะสามารถดึงคงสภาพเดิมเอาไว้ได้ เพราะอันที่จริงแล้วเทือกเขาดังกล่าวนั้นน่าจะถูกกัดเซาะไปตามกาลเวลาเนื่องจากว่ามีน้ำแข็งปกคลุมอยู่

และนอกจากนี้ เทือกเขาที่อยู่ภายใต้พื้นน้ำแข็งแอนตาร์กติกาก็ควรจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไป เพราะน่าจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงจากทางธรณีวิทยาเช่นการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกนั่นเอง 

          อย่างไรก็ตามนอกจากเทือกเขานี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาเป็นระยะเวลานานหลายพันปีแล้วเรื่องพื้นที่ดังกล่าวนี้ยังมีความผันผวนของแรงโน้มถ่วงอีกด้วยจึงทำให้นักวิทยาศาสตร์ต่างก็พากันสงสัยเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์มองว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขายังคงสภาพเอาไว้ได้

ก็เพราะว่าเธอเขานี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ในยุคที่ยังไม่มีน้ำแข็งปกคลุมและมันถูกน้ำแข็งปกคลุมในภายหลังซึ่งน้ำแข็งเป็นตัวที่ควบคุมไม่ให้รูปแบบของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลานั้นเอง 

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง

ดาวเคราะห์ที่มีสภาพที่ใกล้เคียงกับโลกมากที่สุด

Published / by admin

        ดาวเคราะห์ที่มีสภาพ  สำหรับในระบบสุริยะจักรวานของเรานั้น นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่ามีดาวเคราะห์อยู่เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด  

ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้มีการลองสำรวจว่าดาวเคราะห์ดวงไหนที่มีความเหมือนหรือมีความใกล้เคียงกับโลกบ้าง โดยในขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ได้มีการค้นหาจนเจอกับดาวเคราะห์ที่มีจำนวนมากกว่า 4500 ดาวงแล้วในระบบสุริยะจักรวานนี้ 

         อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีการค้นพบดาวเคราะห์เยอะแยะมากมาย แต่ไม่ใช่ว่าดาวเคราะห์ทุกดวงจะทำให้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ ซึ่งผลจากการสำรวจของนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าในตอนนี้ที่ค้นพบดาวเคราะห์ประมาณ สี่พันห้าร้อยดวงนั้นมีแค่ประมาณ ยี่สิบสี่ดวงเท่านั้นที่มีสภาพใกล้เคียงกับโลกพอที่จะให้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้

ซึ่งในบทความนี้เราจะมายกตัวอย่างดาวเคราะห์บางดวงให้ทราบกัน สำหรับในบทความนี้ จะยกตัวอย่างเช่น ดาวทีการ์เด้นบี   ดาวแคปเลอร์-1639 บี และดาว แอลเอชเอส 1140 บี เป็นต้น          

   ทีการ์เด้น B  เป็นดาวเคราะห์นอกระบบที่โคจรรอบดาวเคราะห์แดงซึ่งห่างจากระบบสุริยะประมาณ 12 ปีแสงโดยปกติแล้วดาวเคราะห์แดงจะสามารถปล่อยแสงปะทุที่สามารถพัทยาชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ในวงโคจรของมันออกไปได้

จะได้หลักดวงนี้ค่อนข้างสงบและเยือกเย็นที่ Garden b มีมวลเกือบเท่ากับโลกมันเดินทางรอบวงโคจรได้สมบูรณ์ในเวลาแค่ประมาณ 5 วันใช้คุณเข้าใจถูกแล้ว 1 ปี บนทีการ์เด้น B ใช้เวลาน้อยกว่า 1 สัปดาห์บนโลกซะอีก

            แคปเลอร์ -1638 บี  ดาวเคราะห์ที่มีต่อสิ่งมีชีวิตที่ใกล้ที่สุดคือ แคปเลอร์ -1638  บี  มันอยู่ในกลุ่มดาวหงส์ซึ่งอยู่ห่างจากเราไปเกือบ 30 ปีแสงเมื่ออยู่ในชั้น Super ซึ่งมีขนาดกว้างกว่าโลกของเรา 2 เท่าและมีน้ำหนักมากกว่าโลกของเราสี่เท่าอย่างนั้นแรงโน้มถ่วงของมันจะมีความแข็งแกร่งมากถึงแม้แต่การกระโดดธรรมดาธรรมดาก็จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับคุณรหัสดาวเคราะห์นี้มีสิ่งมีชีวิตอยู่จริงๆมันจะเคยชินกับสภาพแวดล้อมแบบนี้ 

       แอลเอชเอส 1140 บี  ดาวเคราะห์ดวงนี้มีหินและของแข็งประกอบอยู่เป็นจำนวนมาก และขนาดของมันจะใหญ่กว่าโลกเพียง 40 เปอร์เซ็นต์แต่เมื่อกลับมีมวลหนักมากกว่าโลกถึง 7 เท่าและมีแรงดึงดูด 3.2 5g  ซึ่งเทียบได้ด้วย ถ้าหากคุณขึ้นเครื่องบินตัวของคุณจะมีน้ำหนักเกินไป 1.5 G 

ดังนั้นบนดาวเคราะห์นี้คุณ จึงแทบจะยืนทรงตัวไม่อยู่  ด้วยความที่มันมีมวลมากดาวเคราะห์ดวงนี้จะมีบรรยากาศที่หนาขึ้น  ปรากฏการณ์เรือนกระจกอุณหภูมิชองมันอาจมีสูงกว่าลบ 7 องศาเซลเซียส   แล้วมันสามารถหมุนรอบวงโคจรได้ในเวลาอันสั้นโดยใช้เวลาเพียงแค่ 24 วันเท่านั้น

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง

รู้หรือไม่มหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรแปซิฟิกนั้นน้ำไม่ได้ไหลมารวมกัน

Published / by admin

        ถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำแต่มันก็มีความแตกต่างกันมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรแปซิฟิกมีความหนาแน่นและลักษณะทางเคมีที่แตกต่างกันเช่นระดับความเค็มและคุณภาพอื่นๆจะเห็นได้ชัดว่าฝั่งนึงมีสีที่แตกต่างอย่างชัดเจนและเขตแดนที่กั้นระหว่างสองมหาสมุทรออกจากการด้วยลักษณะทางกายภาพและชีวภาพที่ต่างกันเรียกว่า โอนเชียน ไคลน์  

           แฮโล ไคลน์  คือพรมแดนระหว่างน้ำที่ระดับความเค็มต่างกัน  มันเป็นสิ่งที่น่าทึ่งที่สุดและนี่คือสิ่งที่ทำให้เรามองเห็นจุดบรรจบกันระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรแปซิฟิก 

นักสำรวจชื่อดัง  ฌาคส์ กุสโต ค้นพบสิ่งนี้ในขณะที่เขากำลังดำน้ำลึกอยู่ในช่องแคบยิบรอลต้า ชั้นของน้ำที่มีความเค็มต่างกันจึงจะถูกแบ่งด้วยฟิล์มใสและแต่ละชั้นก็มีพืชและสัตว์อาศัยอยู่เป็นของตัวเอง 

         แฮโล ไคลน์   เกิดขึ้นเมื่อน้ำในมหาสมุทรโดยทะเลมีความเข้มอย่างน้อยมากกว่า 5 เท่าของน้ำในอีกด้านนึง  คุณสามารถทดลองสร้าง แฮโล ไคลน์  ได้ที่บ้านโดยการเทน้ำทะเลหรือน้ำเกลือผสมสีลงในแก้วจากนั้นเติมน้ำจืดตามลงไปแต่ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ แฮโล ไคลน์  ของคุณจะเกิดขึ้นในแนวนอน แต่ในมหาสมุทรมันเกิดขึ้นในแนวตั้ง

         ถ้าหากจำหลักฟิสิกส์พื้นฐานได้คุณอาจจะเถียงว่าของเหลวที่มีความหนาแน่นมากกว่าจะอยู่ใต้ของเหลวที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า หากนั้นเป็นความจริงเหตุการณ์ระหว่างมหาสมุทรทั้งสองไม่น่าจะมีลักษณะเป็นแนวตั้งเป็นแนวนอนและความแตกต่างระหว่างความเค็มของพวกมันยิ่งน้อยลงเท่าไหร่มันก็จะไหลมารวมกันมากเท่านั้น แล้วทำไมมันถึงได้เป็นแบบนั้น  

         ประการแรกความแตกต่างของความหนาแน่นของน้ำในมหาสมุทรทั้งสองนั้นไม่ได้ชัดเจนจนทำให้ฝ่ายนึงจมอยู่ข้างใต้และทำให้อีกฝ่ายหนึ่งรออยู่ข้างบน

แต่ก็ยังไม่ถึงกับทำให้พวกมันผสมรวมกัน  ส่วนประการที่สองคือแรงเฉื่อย  หนึ่งได้รับเฉื่อยที่รู้จักกันในชื่อแรงคอริออลิสคือแรงที่มีอิทธิพลต่อวัตถุเมื่อพวกมันเคลื่อนที่ในระบบของแกนกลางซึ่งในทางกลับกันเองก็เคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน  พูดง่ายๆก็คือโลกของเรากำลังหมุนเพราะว่าทุกอย่างบนโลกก็จะถูกแรงโคริโอลิสเบี่ยงเบนไปจากทิศทางของมัน ผลที่ตามมาคือวัตถุบนพื้นผิวโลกจะไม่ได้เคลื่อนที่ตรงไปข้างหน้า

      ในซีกโลกเหนือมันจะถูกเปลี่ยนเป็นไปในทิศทางตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกใต้  แต่โลกกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆมันใช้เวลาทั้งวันในการหมุนรอบแกนตัวเองนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผลกระทบจาก คอริออลิส  เราจะสามารถเห็นได้ชัดในช่วงเวลาที่ยาวนานเท่านั้นเช่นเมื่อมีพายุไซโคลนหรือทางมหาสมุทรนี่เป็นเหตุให้ทิศทางของการไหลของมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรแปซิฟิกและแตกต่างกันดังนั้นมันจึงไม่ไหลมารวมกัน

 

สนับสนุนโดย    ufabet