ประเพณีเผาเทียนเล่นไฟ หรือที่รู้จักในชื่อ “งานเทศกาลเผาเทียนเล่นไฟ” เป็นประเพณีสำคัญที่เกิดขึ้นในจังหวัดสุโขทัย ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 700 ปี
โดยเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและประเพณีไทยที่สะท้อนถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนา และการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลวันลอยกระทง
ประเพณีเผาเทียนเล่นไฟมีจุดเริ่มต้นจากยุคสุโขทัยซึ่งเป็นราชธานีแรกของไทย ในยุคของพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พ่อขุนรามคำแหงมหาราช) ซึ่งเป็นช่วงที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมากในราชอาณาจักรสุโขทัย พระมหาธรรมราชาทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและได้ทรงส่งเสริมการปฏิบัติธรรมและการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ในวันสำคัญทางศาสนา
พิธีเผาเทียนนั้นเกี่ยวข้องกับความเชื่อในการถวายแสงสว่างแด่พระพุทธเจ้า การเผาเทียนจึงเป็นการถวายความเคารพและแสดงความศรัทธา โดยมีการจัดขึ้นที่วัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่งเป็นวัดสำคัญในจังหวัดสุโขทัย ในพิธีนี้ ผู้เข้าร่วมจะนำเทียนมาจุดแล้วเผาที่แท่นบูชา
โดยเชื่อว่าจะทำให้เกิดแสงสว่างในชีวิตและส่งผลให้เกิดความสุขสงบ
การเล่นไฟในประเพณีนี้เกี่ยวข้องกับการจุดดอกไม้ไฟและการจัดแสดงแสงไฟในยามค่ำคืน ซึ่งสะท้อนถึงความสวยงามและการเฉลิมฉลอง ในอดีตจะมีการจุดไฟที่ลานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ทำให้เกิดแสงสว่างที่ส่องไปทั่วบริเวณงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนรู้สึกตื่นตาตื่นใจ และเป็นโอกาสที่ครอบครัวและชุมชนจะได้มาร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ
ประเพณีเผาเทียนเล่นไฟได้ถูกสืบทอดต่อกันมารุ่นต่อรุ่น และยังคงเป็นประเพณีที่สำคัญและมีความหมายสำหรับชาวสุโขทัย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเพณีนี้ได้มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่ยังคงรักษาแก่นแท้ของการถวายเทียนและการเล่นไฟอยู่เช่นเดิม ปัจจุบันงานเทศกาลนี้มีการจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่
และได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน มีการจัดแสดงแสงไฟและดอกไม้ไฟอย่างอลังการ รวมถึงมีการจัดงานแสดงศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของชาวสุโขทัย
ประเพณีเผาเทียนเล่นไฟไม่ได้เป็นเพียงแค่การเฉลิมฉลองหรือพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นการรวมตัวของคนในชุมชนและครอบครัว เป็นเวลาที่ทุกคนจะได้พบปะและทำกิจกรรมร่วมกัน และยังเป็นโอกาสที่จะแสดงออกถึงความรักและเคารพต่อประเพณีที่มีมาอย่างยาวนาน
ในท้ายที่สุด ประเพณีเผาเทียนเล่นไฟเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาและสืบทอดวัฒนธรรมไทยที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เป็นประเพณีที่ทำให้คนรุ่นหลังได้รับรู้และเข้าใจถึงรากเหง้าของตนเอง และยังคงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไทยทุกคนภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ
สนับสนุนโดย ole777