คลังเก็บหมวดหมู่: ตำนาน

ตำนานสยองของปราสาทฮิเมจิ

Published / by admin

สำหรับตำนานสยองขวัญของประสาทที่ชื่อว่าฮิเมจิ ตำนานสยองของปราสาทฮิเมจิ ตำนานเดียวกันกับที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีนี่ก็คือตำนานผีนับจานนั่นเองซึ่งปราสาทฮิเมจินั้นเป็นประสาทที่มีอยู่จริงและปัจจุบันนี้บ่อน้ำที่มีการเล่าลือกันว่ามีผีของหญิงสาวที่มาร้องไห้คร่ำครวญและมายืมจานอยู่นั้นก็มีอยู่จริงเช่นเดียวกัน

            ซึ่งที่นี่ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเที่ยวกันมากของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ สำหรับตำนานความน่ากลัวของปราสาทฮิเมจินี้มีการเล่าลือกันถึงความน่ากลัวของหญิงสาวที่กลายเป็นวิญญาณคอยหลอกหลอนผู้คนในช่วงเวลาค่ำคืน 

          สำหรับตำนานนั้นบอกว่าหญิงสาวที่กลายมาเป็นผีนักการนั้นก็เป็นสาวใช้อยู่ที่ปราสาท ฮิเมจิแห่งนี้  และด้วยความสวยของเธอนั้นทำให้เป็นที่ต้องตาของ   อาโอยาม่า เทสซัน เขาพยายามที่จะให้เธอนั้นมาเป็นภรรยาน้อยของเขาแต่เธอนั้นก็ไม่ยอม

          ดังนั้นเขาจึงได้มีการวางแผนให้เธอนั้นทำหน้าที่ดูแลการ ตำนานสยองของปราสาทฮิเมจิ  ซึ่งเป็นการที่มีราคาแพงโดยบอกกับเธอว่าจะต้องมีการทำความสะอาดทุกวัน และต้องดูแลเป็นอย่างดีอย่าให้ตาลหายอย่างเด็ดขาดเลยจ้านั้นมีทั้งหมด 10 ไปด้วยกันหลังจากนั้นในช่วงเวลากลางคืน  อาโอยาม่า เทสซัน ก็ได้มีการนำจานไปซ่อน  

          และเมื่อสาวใช้คนดังกล่าวมาทำความสะอาดและนับจานทำให้จานนั้นไม่ครบหายไป 1 ใบ หลังจากนั้น อาโอยาม่า เทสซัน  จึงได้แกล้งทำทีโมโหสาวใช้และจะทำการลงโทษแต่ได้มีการยื่นข้อเสนอว่าถ้าหากสาวไทยคนนั้นยินยอมที่จะเป็นภรรยาน้อยของเราแล้วเราก็จะไม่มีการลงโทษแต่อย่างใด

            แต่ยังไงก็แล้วแต่สาวใช้คนดังกล่าวนั้นก็ยืนยันว่าเธอนั้นจะไม่ยอมเป็นภรรยาน้อยอย่างเด็ดขาดและเธอก็เลือกที่จะรักษาเกียรติยศของเธอเองด้วยการฆ่าตัวตายซึ่งเธอนั้นไปกระโดดลงในบ่อน้ำโอคิคุ  และจบชีวิตลงในบ่อน้ำดังกล่าวนั่นเอง

           ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมาในช่วงเวลากลางคืนคนในปราสาทฮิเมจิมักจะเห็นหญิงสาวตัวซีดขาวยืนอยู่ตรงบริเวณข้างบ่อน้ำพร้อมทั้งร้องไห้คร่ำครวญและมักจะได้ยินเสียงหญิงสาวคนดังกล่าวนับเลข 1 ถึงเลข 9

             และเมื่อถึงเลข 9 เธอก็จะโวยวายว่าเลข 10 หายไปไหนและเริ่มนับใหม่มาเรื่อยๆทำให้กลายเป็นที่หวาดกลัวของคนในปราสาทกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียวและนั่นเองคือที่มาของตำนานความน่ากลัวหรือตำนานของผีนับจานในปราสาทฮิเมจินั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    ufabet ฝากถอน ไม่มีขั้นต่ำ ออโต้

ตำนาน ท่าตาจวง จังหวัดสุพรรณบุรี

Published / by admin

สำหรับตำนานเรื่องเล่า ท่าตาจวง จังหวัดสุพรรณบุรี   เป็นตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับท่าน้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งท่าน้ำนี้อยู่ที่อำเภอสามชุกจังหวัดสุพรรณบุรี   โดยในจำนวนนั้นมีการพูดถึงชายคนหนึ่ง  ซึ่งมีชื่อว่าการกระทรวงโดยตาจวงนี้เป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างงดงามและเรียนวิชาอาคมเขาสามารถแปลงร่างเป็นอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรืออะไรก็ตามแต่  และที่สำคัญตาจวงนั้นได้ร่ำเรียนวิชาอยู่ยงคงกระพันทำให้ไม่สามารถมีใครฆ่าเขาตายได้

          ด้วยความที่ตาจวงนั้นเป็นคนหล่อ  ทำให้แกมีเมียถึง 2 คนด้วยกันแต่เมียทั้ง 2 คนนั้นก็ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกันรักใคร่กันดีสำหรับเมียคนแรกของตาจวงนั้นมีชื่อว่านางอรุณส่วนเมียคนที่สองของตาจวงนั้นมีชื่อว่านางสุวรรณ  เมียทั้งสองคนนั้นมักจะชอบอะไรเหมือนๆกันและขนาดท้องทั้งสองคนก็ยังมีการตั้งท้องพร้อมๆกันอีกด้วย สำหรับตาจวงนั้นแกเป็นคนพื้นที่ในจังหวัดอยุธยา 

     อยู่มาวันหนึ่งเมียหลวงก็คือนางอรุณนั้นแพ้ท้องอย่างหนักอยากจะกินผลไม้ที่ชื่อว่าลูกสมอซึ่งแถวบ้านที่ตาจวงอยู่นั้นไม่มีลูกสมอหรือต้นสมอเลยแต่ด้วยความที่ตาจวง นั้นเป็นคนที่รักเมียมากๆ ดังนั้นไม่ว่าเมียอยากจะได้อะไรหรืออยากจะกินอะไร ตาจวง ก็มักจะให้อยู่เสมอซึ่งครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อบริเวณที่บ้านอยู่ไม่มีต้นสมอ ตาจวงจึงได้พาเมียทั้งสองคนเดินทางไปที่จังหวัดสุพรรณบุรี

           ซึ่งบริเวณทางผ่านระหว่างรอยต่อข้ามจังหวัดไปสุพรรณบุรีนั้นจะมีป่าแห่งหนึ่งซึ่งเป็นป่าขนาดใหญ่และป่าแห่งนี้จะมีต้นสมอเป็นจำนวนมากทำให้ ตาจวงพาเมียทั้งสองคนเดินทางมาที่ป่าแห่งนี้   เมื่อมาถึงตรงพื้นที่ที่เป็นเขตรอยต่อระหว่างจังหวัดอยุธยากับจังหวัดสุพรรณบุรีพรุ่งนี้จะมีคลองแบ่งแยกเขตแดนซึ่งเป็นคลองขนาดความกว้างมากและมีน้ำไหลแรงมากทำให้ไม่สามารถเดินข้ามคลองกันได้

       ดังนั้น ตาจวง จึงได้ใช้วิชาอาคมของตนเองแปลงร่างกายเป็นจระเข้เพื่อที่จะได้ลอยคอเอาภรรยาข้ามคลองโดยก่อนที่ตาจวงจะแปลงกายเป็นจระเข้ได้บอกกับเมียคนแรกว่าให้ถือขันน้ำมนต์เอาไว้เพราะขันน้ำมนต์อันนี้จะช่วยให้ตนเองนั้นกลับมาเป็นมนุษย์ได้อีกครั้งโดยกำชับหนักหนาว่าอย่าให้ขันน้ำมนต์ หก และท่าตาจวงพาเมียคนที่สองข้ามฝั่งมาได้ก็ให้นำน้ำมนต์เทราดลงบนหัวจระเข้เลย 

       หลังจากรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ  ท่าตาจวง จังหวัดสุพรรณบุรี ก็กลายร่างเป็นจระเข้และพาเมียคนแรกลอยข้ามคลองไปยังฝั่งสุพรรณบุรีซึ่งเมียคนแรกนั้นก็ถือขันน้ำมนต์ไปด้วยระหว่างที่กำลังก้าวขึ้นไปบนตลิ่งฝั่งจังหวัดสุพรรณบุรีบังเอิญว่าเมียคนแรกก็คือนางอรุณนั้นหันกลับมามองที่จระเข้แล้วสายตาไปเจอเข้ากับสายตาจระเข้ด้วยความตกใจกลัวทำให้นางอรุณทำขันน้ำมนต์หก 

          และเมื่อไม่มีน้ำมนต์ราดบนตัวจระเข้ก็ทำให้แต่ตัวเองนั้นไม่สามารถกลับกลายร่างมาเป็นคนได้ทำให้ตาจวงนั้นต้องเป็นจระเข้เฝ้าครองดังกล่าวนับแต่นั้นเป็นต้นมาซึ่งนางอรุณเองก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรีในขณะที่ภรรยาน้อยก็คือนางสุวรรณนั้นยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่ฝั่งของจังหวัดอยุธยานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมานั่นเองโดยหลังจากนั้นเมียทั้งสองคนของตาจวงก็มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมืองในขณะที่จระเข้ของตาจวงก็อาศัยอยู่ในถ้ำภายในคลองดังกล่าว 

 

สนับสนุนโดย.   gclub casinoทดลองเล่น

ประวัติของNike

Published / by admin

ไนกี้(Nike)นั้นเป็นแบรนด์ที่โด่งดังทั่วโลกซึ่งเป็นบริษัทที่ทำการผลิตเครื่องมือทางด้านกีฬาเช่นรองเท้า อุปกรณ์กีฬาต่างๆ เสื้อผ้า ซึ่งมีบริษัทที่ทำการเปิดเป็นบริษัทใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา ที่ทำการก่อตั้งโดย บิลล์ บาวเวอร์แมน(Bill Bowerman) และ ฟิล ไนต์ (Phil Knight) 

ประวัติของNike

ที่มีการทำการสร้างหรือทำการก่อตั้งบริษัทไนกี้(Nike) ซึ่งก่อนที่จะมาก่อตั้งบริษัทนี้ทั้งบิลล์ บราเวอร์แมน(Bill Bowerman) เคยเป็นโค้ชให้กับนักวิ่งของมหาลัยมาก่อนและได้ทำการลงแข่งขันและมีผลงานมากมาย NCAA Outdoor championships ในปีค.ศ. 1962, 1964, 1965 และ 1970

ประวัติของNike ซึ่งนอกจากนี้ยังเป็นโค้ชให้กับนักวิ่งและทำให้ทีมชาติของอเมริกาได้แชมป์เหรียญทอง6สมัย ในโอลิมปิก ซึ่งทำให้บิลล์ บราเวอร์แมน(Bill Bowerman) นั้นได้ทำการรู้จักกับ ฟิล ไนต์(Phil Knight) ในแมชที่ ฟิล ไนต์(Phil Knight) นั้นได้ทำการเป็นนักวิ่งให้กับมหาวิทยาลัย ออริกอน (University Of Oregon) 

และทั่งคู่นั้นต้องการที่จะได้รองเท้าวิ่งสำหรับการแข่งขันวิ่ง ซึ่งทาง ฟิล ไนต์ (Phil Knight) นั้นได้ทำการศึกษาค้นขว้าข้อมูลมานั้นและได้รับข้อมูลมาว่ารองเท้ากีฬาของประเทศญี่ปุ่นนั้นได้ มีคุณภาพและมีราคาที่ดีกว่าของทางประเทศเยอรมัน ที่เป็นผู้นำในตลาดที่อเมริกาอยู่นั้นเอง

และในตอนที่ ฟิล ไนต์(Phil Knight) นั้นทำการเรียนจบจากมหาลัยและได้ทำการออกเดินทางไปในประเทศต่างๆ ซึ่งในตอนที่ ฟิล ไนต์(Phil Knight) ได้ทำการไปญี่ปุ่นนั้นได้ทำการพบกับ โอนิซูกะ ไทเกอร์ (Onitsuka Tiger) ที่ได้ทำการผลิตรองเท้าประเภทกีฬาของญี่ปุ่นนั้นได้ให้เข้ามาทำการส่งออกมาขายใน อเมริกา

และได้ทำการใช้ชื่อว่า Blue Ribbon Sports หรือBRS และได้ร่วมกันก่อตั้งกับ บิลล์ บราเวอร์แมน (Bill Bowerman) โดยที่ทั้งสองนั้นทำการแบ่งหน้าที่โดยการที่ ฟิล ไนต์ (Phil Knight) นั้นได้ทำหน้าที่ในส่วนของ การตลาดและการเงิน และ บิลล์ บราเวอร์แมน(Bill Bowerman) นั้น

ได้ทำการเป็นผู้ที่ออกแบบและพัฒนารองเท้า ซึ่งในปีค.ศ. 1970 บิลล์ บราเวอร์แมน(Bill Bowerman) นั้นได้ทำการทดลอง ทำพื้นลองเท้าแบบยางโดยที่ใช้เครื่องอบขนมในการทำพื้นรองเท้าและได้ทำให้พื้นรองเท้าแบบนี้ได้รับความนิยมจนมาถึงปัจจุบัน

และได้จดชื่อบริษัทที่มีชื่อว่าไนกี้(Nike) ในปี1971 แต่ในปี1972 นั้น ทาง โอนิซูกะ ไทเกอร์ (Onitsuka Tiger) นั้นได้ทำการแยกตัวออกมาเพราะได้เกิดความขัดแยงทางธุรกิจ และในปี1984 นั้นได้ทำการร่วมมือนักบาสชื่อดังนั่นก็คือ ไมเคิลจอร์แดน (Michael Jordan) และได้ทำการทำรองเท้าร่วมกันและโดยมีชื่อว่า Nike Air Jordan ซึ่งเป็นที่นิยมกันถึงปัจจุบันอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย  ทางเข้า sbobet ใหม่ล่าสุด

ความเป็นจริงของเจ้าหญิงRapunzelไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด

Published / by admin

ซึ่งเราเชื่อว่าหลายๆคนคงจะรู้จักกันอย่างแน่นอนเพราะว่าเจ้าหญิงRapunzelเป็นหนึ่งในเจ้าหญิงที่โด่งดังไปทั่วโลกทั้งการ์ตูนหน้าจอทีวีและการ์ตูนในจอภาพยนตร์ใช้คำว่าถูกอกถูกใจทุกเพศทุกวัยเลยก็ว่าได้ด้วยเนื้อหาที่ค่อยข้างน่ารักภาพที่ค่อยข้างจะสวยงามบวกกับความตลกของในการ์ตูนเรื่องนี้ทุกอย่างลงตัวหมดเลย

โดยเป็นการ์ตูนที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยจริงๆแต่เราเชื่อเลยว่าหลายคนไม่รู้ที่ไปที่มาที่แท้จริงและไม่รู้ว่าต้นฉบันของเจ้าหญิงRapunzelนั้นจริงๆแล้วมันไม่ได้สวยงามอย่างในการ์ตูนเลยเพราะในความเป็นจริงของเจ้าหญิงRapunzelนั้นว่ากันว่าความโหดร้ายถึงขั้นทำให้เจ้าชายตาบอดไปเลยก็ว่าได้

นอกจากนี้ที่หนักไปกว่านั้นเลยก็คือเจ้าหญิงRapunzelที่เราเห็นอยู่ในการ์ตูนเรื่องนั้นความเป็นจริงแล้วเธอท้องแล้วมีลูกแต่ถูกสาปให้ไปอยู่กลางงทะเลทรายที่ทุรกันดารมากกว่าการ์ตูนหลายๆคุมเลยก็ว่าได้

ในโลกยุคปัจจุบันที่เราอยู่นี้ต้องขอบอกเลยว่ามีสื่อของการ์ตูนอยู่เยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็นทั้งสื่อการ์ตูนในรูปแบบของจอทีวีในรูปแบบของภาพยนตร์ซึ่งสื่อของการ์ตูนที่เราได้พูดถึงมาในตอนนี้ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นสื่อของการณ์ตูนที่อยู่ในมุมมองเชิงบวกกันซะส่วนใหญ่

เป็นสื่อของการ์ตูนที่อยู่ในรูปแบบของความน่ารักสอดแทรกเนื้อหาดีๆหรือแม้แต่ซุปเปอร์ฮีโร่ที่ทำให้เราอยากจะเป้นคนดีในสังคมต่างๆนานามากมายอะไรกันประมาณนี้ใช่ไหม

โดยส่วนใหญ่เราจะเห็นการ์ตูนในรูปแบบนี้กันซะหมดเลยแต่คุณรู้หรือไม่ว่าการ์ตูนที่เราได้พูดไปทั้งหมดเหล่านี้ในความเป็นจริงแล้วมันมีหลายๆเรื่องที่ประวัติที่มาที่แท้จริงหรือต้นฉบับของการ์ตูนเหล่านั้นมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดเอาไว้ถ้าให้เรายกตัวอย่างเอาง่ายๆเลยอย่างเช่นเทเลทับบี้ที่เราเห็นว่ามันน่ารักมีทีวีอยู่ที่หน้าท้องมีเสาอยู่ที่หัวมีเนื้อหาที่ค่อนข้างที่จะเหมาะสำหรับเด็กนั้น

ในความเป็นจริงแล้วมันกลับไม่ใช่อย่างนั้นเลยซึ่งแน่นอนแล้ง่ามันก็ยังได้มีการ์ตูนอีกหลายเรื่องที่ในประวัติที่แท้จริงมันไม่ได้สวยงามแบบนี้และหนึ่งในการ์ตูนเรื่องนั้นมีการ์ตูนที่เราได้นำมาเป็นหัวข้อวันนี้ด้วยนั่นก็คือ “เจ้าหญิงราพันเซล” 

สำหรับเจ้าหญิงราพันเซลถ้าใครไม่เคยได้ยินหรือว่าใครไม่เคยรู้เจ้าหญิงราพันเซลก็คือหนึ่งในตัวละครเจ้าหญิงดิสนีย์ที่โด่งดังไปทั่วโลกที่เนื้อหาในการ์ตูนเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะสวยงามมาก

 

ขอบคุณผู้สนับสนุนเรื่องราวโดย.     gclub ฝาก ขั้นต่ำ 20

การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมในการใช้ชีวิตของผู้คน

Published / by admin

สาเหตุที่นิยมปัจจุบันวัฒนธรรมในการใช้ชีวิตของผู้คนมีการเปลี่ยนแปลงร่างเป็นเพราะว่าผู้คนในยุคสมัยต่างๆมีการพัฒนาความรู้แนวคิดหรือว่าลักษณะในการทำงานอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบันต้องยอมรับเพราะผลงานต่างๆซึ่งมีส่วนสำคัญนำเสนอรูปแบบนำเสนอการพัฒนาการทำงานหรือแม้จะเป็นโครงสร้างในการทำงานต่างๆที่มีการพัฒนา

และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาทำให้ผู้คนในยุคปัจจุบัน สามารถเข้าถึงและพัฒนาโครงสร้างในการทำงานต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพได้มากที่สุด บทบาทที่สำคัญคือคำแนะนำโครงสร้างในการทำงานดังกล่าวนี้ช่วยให้ผู้คนในยุคปัจจุบันมีการพัฒนารูปแบบ

หรือระบบในการติดต่อสื่อสาร อย่างที่รู้กันว่าวัฒนธรรมความเป็นอยู่หรือแนวคิดของผู้คนมีการพัฒนาตลอดเวลานี้จึงเป็นบทบาทหนึ่งบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบัน มีความจำเป็นจะต้องมีการเรียนรู้ว่ามนุษย์มีเหตุผลอย่างไรในการฝึกฝีมือในการทำงานต่างๆ

หรือแม้แต่จะเป็นการพัฒนาในส่วนของศักยภาพในการทำงานศิลปะในยุคสมัยต่างๆ วัฒนธรรมที่มีระบบที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติความเป็นอยู่แนวคิดต่างๆก็มีบทบาทสำคัญที่ทำให้งานศิลปะนั้นมีความแตกต่างกันเช่นเดียวกันยกตัวอย่างเช่นในประเทศไทย

งานศิลปะทางวัฒนธรรมของภาคเหนือกับภาคใต้ก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนนี่จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือว่าถ้าทำในการใช้ชีวิตของผู้คนที่มีบทบาทที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอสร้างรูปแบบหรือแม้แต่จะเป็นแนวคิดต่างๆที่มีความจำเป็นต้องมีการพัฒนาปรับปรุงอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

อะไรก็ตามในยุคปัจจุบันเราพบเห็นงานประติมากรรมต่างๆหรือแม้แต่จะเป็นแนวคิดต่างๆที่มีการปรับปรุงและมีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นมนุษย์มีความต้องการในการพัฒนาโครงสร้าง สร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเองที่จึงเป็นบทบาทที่สำคัญที่มนุษย์มีการสร้างอุปกรณ์ในการล่าสัตว์

รวมไปถึงเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆในการใช้ในครัวเรือนหรือสังคมต่างๆ สิ่งต่างๆเหล่านี้ในยุคปัจจุบันได้กลายเป็นของล้ำค่าอย่างมากในการศึกษานี้จะเป็นเพราะว่ามนุษย์ในยุคก่อนนั้นไม่มีแบบไม่มีแผนแต่สามารถทำอุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดเช่นเดียวกับวัฒนธรรมในการใช้ชีวิตของผู้คนที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอปรับปรุงคุณภาพให้เข้ากับวิถีชีวิตในยุคต่างๆ

การเปลี่ยนแปลงแนวคิดการพัฒนาโครงสร้างในการทำงานต่างๆเหล่านี้จึงส่งผลต่อผู้คนในยุคปัจจุบัน เครื่องหมายเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆที่มีการใช้งานเริ่มด้วยการพัฒนาอุปกรณ์ที่ง่ายๆจนไปถึงอุปกรณ์ที่มีความยากและมีความซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงทางด้านงานศิลปะเช่นเดียวกันมนุษย์มีความต้องการในการบันทึกจดหรือแม้จะเป็นพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆให้สามารถใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

นี่จึงเป็นบทบาทที่อุปกรณ์ในยุคปัจจุบันมีการพัฒนาและมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างในการทำงานปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในยุคสมัยต่างๆที่มีลักษณะในการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างแตกต่างกันเราจะทำให้เธอ 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet บาคาร่าออนไลน์

ตำนานหมู่บ้านเกยตายจระเข้กินคนไอ้ด่างเกยไชย

Published / by admin

โดยปกติแล้วจระเข้ก็จะเป็นสัตว์ที่ชอบหากินกุ้งหอยปูปลาเป็นอาหารแต่ถ้ามันเกิดติดใจรสชาติของเนื้อมนุษย์ขึ้นมาล่ะจะเป็นไปได้หรือไม่ว่ามันจะกลายพันธ์มาเป็นจระเข้ที่จะล่ากินแต่เนื้อคน

ซึ่งจระเข้เกยไชยก็เป็นเรื่องเล่าของคนชาวนครสวรรค์ที่ได้อาศัยอยู่ในแทบบริเวณแม่น้ำน่านถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะมีความเก่าแก่มาตั้งแต่รัชกาลที่5แต่ด้วยความโหดของมันก็ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่ลืมเรือนเลยของคนที่ในพื้นที่เหล่านั้นโหดถึงขนาดที่ว่าสมเด็จกรมพระยาดํารงราชานุภาพนั้นอยากจะขึ้นไปดูถึงที่

โดยท่านก็เป็นผู้ที่ได้เขียนหลักฐานกล่าวถึงจระเข้ตัวนี้เอาไว้แต่มันก็เป็นหลักฐานที่มันค่อนข้างที่จะสั้นเหลือเกินคือมันมีแค่เพียงสองบรรทัดเท่านั้นเองใจความก็ประมาณว่ามันเป็นศรีษะของจระเข้ที่ใหญ่และเป็นจระเข้กินคนที่ชาวบ้านได้เล่าลือกันว่าเป็นจระเข้เจ้าเราก็เลยได้ไปหาดูกับเรื่องราวที่เกี่ยวกับจระเข้และชาวบ้านกันดีกว่า

ด้วยความที่ว่ามันเป็นเรื่องราวที่ดังมากขนาดนี้แล้วพวกชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนั้นก็น่าจะรู้อะไรดีๆบ้างแหละจริงไหมว่ากันว่าในสมัยก่อนที่แห่งนี้เขาได้เรียกกันว่าบ้านเกยไชยในปัจจุบันมันก็ได้กลายมาเป็นหมู่บ้านตำบลเกยไชยของจังหวัดนครสวรรค์ไปแล้วแต่ว่าที่แห่งนี้ก็ได้มีชื่อเล่นอีกชื่อหนึ่งว่าบ้านเกยตายโดยสาเหตุของความน่ากลัวในสมัยก่อนที่จะมีจระเข้ได้เข้ามาเยือนอีก

นอกจากนี้ที่แห่งนี้มันก็จะมีวัดอยู่วัดหนึ่งชื่อตรงๆเลยก็คือวัดเกยไชยนั่นเองเป็นวัดที่ตั้งอยู่บริเวณจุดแม่น้ำยมกับแม่น้ำน่านกับแม่น้ำหลักทั้งสองสายหลักของไทยได้ไหลมาบรรจบกันก่อนที่จะมาเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาและเส้นทางนี้มันก็เป็นเส้นทางที่พ่อค้าแม่ขายจะพายเรือลงมาจากทางเหนือเพื่อจะไปค้าขายกับทางใต้ทำให้แต่ละวันจะมีคนสัญจรไปบนแม่น้ำเส้นนี้อย่างมากมาย

เนื่องจากมันก็ยังได้เป็นเส้นทางที่น่ากลัวอยู่เหมือนกันเพราะว่าในช่วงที่มีน้ำเยอะๆอย่างฤดูฝนแม่น้ำสายนี้ก็จะไหลแรงมากกว่าเดิมส่งผลทำให้เรือเล็กๆที่พายมาแบบไม่ระวังก็ได้จมลงไปและด้วยความที่ว่าแม่น้ำทั้งสองสายได้มาบรรจบกันมันก็ก่อให้เกิดเป็นน้ำวงดูดทุกอย่างลงไปใต้น้ำหมดเลยคือ

ใครที่จมน้ำตรงนี้ก็อย่าหวังเลยว่าจะว่ายน้ำขึ้นไปบนฝั่งได้เพราะจะโดนดูดลงไปข้างล่างหมดชาวบ้านก็เลยเรียกชื่อแห่งนี้ไปว่าแบบเป็นแนวประชดว่าบ้านเกยตาย

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.     sagame

ตำนานบ้านศรีพะโล จังหวัดชลบุรี

Published / by admin

            สำหรับตำนานพื้นบ้านเป็นการเล่าเรื่องถึงที่มาที่ไปของการตั้งชื่อหมู่บ้านเมืองศรีพโลเพราะเหตุใดจึงมีการถูกตั้งชื่อมาเป็นแบบนี้ซึ่งเรื่องราวนั้นมีการกล่าวถึงสมัยในอดีตกาลโดยมีการระบุว่าในสมัยก่อนนั้นเมืองศรีพโลนั้นเป็นเมืองที่อยู่ติดกับแม่น้ำดังนั้นจึงเป็นเมืองที่มักจะมีเรือสำเภาของชาวต่างชาติไม่ว่าจะเป็นชาวจีนหรือของชาติอื่นๆล่องเรือสำเภามาจอดขายสินค้าอยู่ที่ท่าเรือนี้กันเป็นประจำ 

แต่ที่เมืองนี้มีเศรษฐีอยู่คนนึงพี่มีนิสัยคดโกงชอบโกงทรัพย์สินของคนอื่นและพ่อค้าที่นำทรัพย์สินมาขายที่ท่าเรือนี้ก็มักจะถูกโกงทรัพย์สินกันเป็นประจำซึ่งวิธีการโกงนั้นก็คือเศรษฐีคนดังกล่าวนั้นจะให้คนงานของตนเองเอาของมีค่าของตนเองนั้นแอบขึ้นไปซ่อนไว้บนเรือ

หลังจากนั้นก็จะออกมาโวยวายว่าชาวต่างชาตินั้นขโมยทรัพย์สินของตนเองไปซึ่งพวกพ่อค้าชาวต่างชาตินั้นด้วยความที่ตนเองนั้นไม่ได้มีการขโมยทรัพย์สินจึง สั่งให้ทางด้านเศรษฐีคนดังกล่าวนั้นหรือค้นเรือได้เลยซึ่งเศรษฐีได้ออกอุบายออกมาว่าถ้าหากว่าเขาให้คนงานคนภายในเรือแล้ว

พบทรัพย์สินของตนเองเขาจะทำการยึดทรัพย์สินภายในเรือทั้งหมดมาเป็นของเขาเองโดยที่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่นั้นมั่นใจว่าตนเองไม่ได้คดโกงใครจึงได้รับคำท้าและเมื่อไปค้นเรือก็จะพบทรัพย์สินของเศรษฐีคนดังกล่าวซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

แต่เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนทำให้เสร็จกี่คนดังกล่าวนั้นกลายเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวยขึ้นมาเรียกได้ว่าเป็นมหาเศรษฐีกันเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามเมื่อมีของมีค่าเยอะทั้งด้านเศรษฐีคนดังกล่าวจึงมักจะนำทรัพย์สินมีค่าของตนเองนั้นไปเก็บไว้ที่อื่นซึ่งจะต้องมีการบรรทุกทรัพย์สินมีค่าของมหาเศรษฐีคนดังกล่าวนั้นผ่านไปทางบ้านเขาพระบาทบางทรายเมื่อมีการเดินอยู่บ่อยครั้งเข้าทำให้เขาบริเวณนั้นขาดจนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่

ดังกล่าวเรียกจุดที่เขาพระบาทบางทรายนั้นขาดว่า คอเขาขาด  และเมืองที่มหาเศรษฐีคนดังกล่าวนั้นอยู่อาศัยด้วยว่ามหาเศรษฐีคนนั้นคดโกงจนเป็นที่เลื่องลือของคนไปทั่วทำให้ใครๆ

ต่างก็พากันเรียกเมืองดังกล่าวว่าเมืองเศรษฐีพาลพาโล  ซึ่งก็จะหมายถึงการที่เศรษฐีคนดังกล่าวนั้นหาเรื่องพาลคนอื่นไปทั่วแล้วโกงเอาทรัพย์สินของคนอื่นเขาไปเมื่อมีการเรียกกันนานวันเข้าจากการที่เรียกเป็นเศรษฐีพาลพาโลก็มีการย่อคำจนเหลือแค่เพียงเมืองเศรษฐีพาโลและปัจจุบันก็ถูกย่อลดลงมาเหลือแค่เพียงเมืองศรีพะโลนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    สมัคร Gclub

ความเชื่อแบบผิดๆ ที่หลายคนคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง

Published / by admin

เรื่องของความเชื่อนั้นคงไม่เข้าใครออกใคร บางคนก็มีความเชื่อส่วนบุคคล แต่บางคนก็มีความเชื่อออกไปทางลักษณะงมงาย ซึ่งวันนี้เหล่ามีความเชื่อที่ไม่น่าเชื่อคนหลายคนจะหลงเชื่อกันในลักษณะแบบนี้ ซึ่งมีอะไรกันบ้างนั้นเราลองมาดูกัน

ความเชื่อที่ว่าหากอ่านหนังสือในที่มือ จะทำให้สายตาเสีย ซึ่งหลายคนเชื่อว่าคงจะโดนเตือนกันเรื่องนี้กันบ่อยมาก ว่าเวลาที่อ่านหนังสือในที่มืด มักจะทำให้สายตาสั้นหรือสายตาเสียกันได้อย่างง่ายๆ แต่แท้ที่จริงแล้วนั้น มีการค้นพบว่าการอ่านหนังสือในที่แสงไม่พอนั้น อาจจะทำให้ตาของเราล้ากันไปบ้าง แต่ไม่ได้เป็นการส่งผลเสียถาวรกับดวงตาของเราอย่างแน่นอน

ความเชื่อที่ว่าลูกกระเดือกจะมีแต่เฉพาะในผู้ชายเท่านั้น ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดแบบมหันต์ เพราะในความเป็นจริงแล้วนั้นลูกกระเดือกของคนเรานั้น ก็คือกระดูกที่ปิดกล่องเสียงเพื่อป้องกันไม่ให้เศษอาหารหรือน้ำตกลงไปนั่นเอง แต่คนส่วนใหญ่มักจะคิดกันไปว่าลูกกระเดือกนั้นจะมีแต่เฉพาะผู้ชายเท่านั้น เพราะว่าเวลามองร่างกายภายนอกแล้วนั้นผู้หญิงจะไม่มีส่วนของลูกกระเดือกโผล่ออกมาให้เห็นชัดเจนเท่านั้น แต่ความจริงลูกกระเดือกของเราก็จะมีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพียงแต่สรีระของผู้ชายนั้นจะเห็นลูกกระเดือกได้ชัดกว่า

ความเชื่อที่ว่ายิ่งโกนหนวด ก็จะยิ่งหนาขึ้น ซึ่งความเชื่อนั้นเป็นความเชื่อที่คนเรามักจะพูดกันบ่อยมากๆกันเหลือเกิน และแถมเป็นความเชื่อที่แทบจะเชื่อกันสนิทเสียด้วย ซึ่งแท้ที่จริงแล้วนั้น ความจริงเส้นผมของเราหรือขนของเรานั้นจะไม่สามารถหนาขึ้นได้หรอกต่อให้เราโกนมันบ่อยหรือถี่แค่ไหน

ซึ่งไอ้ความเชื่อที่ว่ายิ่งโกนหนวดแล้วยิ่งขึ้นนั้น ก็เป็นเพราะว่าในช่วงตอนที่หนวดของคุณหลังจากที่โกนแล้วมันเพิ่งเริ่มขึ้นใหม่ๆนั้น ธรรมชาติของหนวดหรือเส้นขนนั้นเมื่อเวลาเราไปสัมผัสจะรู้สึกหยาบๆ จึงทำให้มักคิดกันว่าหนวดหรือขนมันหนาขึ้นนั่นเอง แต่ความจริงแล้วนั้น มันก็หนาเท่าเดิมนั่นแหละ

ความเชื่อที่ว่าแม่นกจะทิ้งลูกตัวเอง หากมีคนไปสัมผัสตัวลูกของมัน ในความเป็นจริงทางหลักการวิทยาศาสตร์ของสัตว์ประเภทนี้แล้วนั้น สัตว์ประเภทนกจะมีต่อมการรับกลิ่นที่เล็กมากซึ่งคนเรามักจะชอบพูดกันว่าอย่าเอามือไปสัมผัสลูกนกเพราะแม่นกจะทิ้งลูกตัวเอง แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่ความจริงเด็ดขาด เพราะด้วยต่อมการรับกลิ่นของนกนั้นเล็กมากจนไม่รู้ด้วยซ้ำ และจะไม่ได้กลิ่นมือที่เราไปสัมผัสนั้นเลย

ตำนานพระอุ้มหมาชีอุ้มแมว ในเขตกรุงเทพมหานครเห็น

Published / by admin

               หากใครเคยฟังตำนานที่จังหวัดสกลนครจะทราบว่ามีหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีตำนานเกี่ยวกับเรื่องของพระอุ้มหมาชีอุ้มแมวซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนั้นในจังหวัดสกลนครต่างก็เชื่อกันว่านั่นคือผีปอบแปลงร่างมาเพราะมีคนล้มตายเป็นจำนวนมากหลังจากให้ความช่วยเหลือพระและที่ดังกล่าว  

        แต่อย่างไรก็ตามแต่เรื่องราวนี้ไม่ได้เพียงโด่งดังแค่ที่จังหวัดสกลนครเพียงเท่านั้นเพราะเรื่องราวนี้ดังมาไกลถึงกรุงเทพฯเลยทีเดียวและเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯนี้ก็เป็นเรื่องราวที่โด่งดังใหญ่โตถึงขนาดที่ว่ามีการออกข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับซึ่งเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อมีชาวบ้านพบเห็นว่ามีพระอุ้มหมาสีดำ และเห็นแม่ชีอุ้มแมวสีดำมาอาศัยอยู่ที่บ้านร้างหลังหนึ่งในย่านบางแค โดยบ้านหลังดังกล่าวนี้อยู่ใกล้กับวัดวัดหนึ่งซึ่งอยู่ในเขตหนองแขม  

         และชาวบ้านเล่าลือกันว่าหลังจากที่พบเห็นว่ามีพระอุ้มหมาสีดำและเห็นชีอุ้มแมวสีดำมาอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวนั้นและเคยเห็นว่าทั้งพระและแม่ชีเดินเข้ามาในหมู่บ้านซึ่งเป็นหมู่บ้านใหญ่หมู่บ้านหนึ่ง เหตุการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นเหมือนกับที่จังหวัดสกลนครที่มีคนตายแต่เหตุการณ์ที่นี่กรุงเทพฯนี้กลับพบว่าหมาและแมวในหมู่บ้านดังกล่าวนั้นหายออกไปจากหมู่บ้านจนหมดสิ้นซึ่งชาวบ้าน

ต่างก็พากันออกมาติดป้ายประกาศตามหาหมาหาแมวของตนเองจนเป็นข่าวโด่งดังใหญ่โตในหน้าหนังสือพิมพ์อยู่หลายวัน  โดยชาวบ้านต่างก็เชื่อว่าสาเหตุที่หมาและแมวของพวกเขาหายไปนั้นน่าจะหายไปจากเหตุการณ์ที่พระและแม่ชีนั้นเข้ามาในหมู่บ้านของพวกเขานั้นเองเพราะหลังจากที่หมาและแมวของพวกเขาหายไปพวกเขาก็ไม่เห็นพระและแม่ชีที่เคยอาศัยอยู่บ้านร้างหลังนั้นอีกเลย 

          และนับตั้งแต่นั้นมา  ชาวบ้านก็มักจะมีการนำเรื่องของพระอุ้มหมาชีอุ้มแมวมาขู่เด็กๆให้กับเข้าบ้านตั้งแต่ตอนเย็นซึ่งถ้าเด็กคนไหนกลับบ้านมาช่วงเวลาค่ำก็จะถูกพ่อแม่ข่มขู่ด้วยตำนานของพระอุ้มหมาชีอุ้มแมวนี้ ทำให้ในสมัยในพอตกค่ำ เด็กๆทุกคนก็จะรีบกลับเข้าบ้านไม่ไปเที่ยวที่ไหนกันเลย เพราะว่ากลัว 

           แต่ในปัจจุบันนี้ตำนานนี้ได้มีการลืมเลือนและหายไปตามกาลเวลา  เดี๋ยวนี้ไม่มีใครหวาดกลัวกับตำนานนี้กันแล้ว ซึ่งเราจะไม่ค่อยได้ยินตำนานนี้กันแล้วโดยตำนานนี้ถูกนำมาเล่านิทานให้เด็กฟังก่อนนอนและในปัจจุบันเด็กๆก็ไม่ค่อยครัวเกี่ยวกับตํานานพระอุ้มหมาชีอุ้มแมวกันแล้วนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย   ufabet

ตำนานความรักของโกโบริและอังศุมาลิน

Published / by admin

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของตำนานความรักที่หลายคนนั้นเกิดความซาบซึ้งในความรักของคนทั้งคู่โดยเฉพาะฝ่ายชายที่ชื่อว่าโกโบริซึ่งตำนานมีการเล่าถึงประวัติความเป็นมาในสมัยช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งในระหว่างนั้นประเทศไทยได้ถูกนำไปเป็นประเทศซึ่งเป็นฐานทัพของประเทศญี่ปุ่น

ซึ่งได้มีการต่อสู้กันระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับประเทศทั้งแถบอเมริกาโดยในตอนนั้นทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการส่งทหารมาประจำการที่ประเทศไทยโดยให้มีการสร้างฐานทัพไว้ที่แถวบริเวณบางกอกน้อยอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟบางกอกน้อยในปัจจุบันนั่นเองซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้มีทหารหนุ่มคนหนึ่งมีชื่อว่าโกโบริเขาได้เกิดตกหลุมรักหญิงสาวชาวไทยคนหนึ่ง

ที่ชื่อว่าอังศุมาลินซึ่งทางด้านโกโบรินั้นเขาได้เป็นลูกชายของนายทหารยศชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งส่วนทางด้านอังศุมาลินนั้นก็เป็นลูกสาวของนายทหารยศชั้นผู้ใหญ่ของคนไทยเช่นเดียวกันทำให้ทั้งคู่นั้นต้องแต่งงานกันเนื่องจากเหตุผลทางการเมือง ในตอนแรกนั้นอังศุมาลินไม่ได้ชอบโกโบริ

แต่ด้านโกโบรินะหลงรักอังศุมาลินอย่างมากเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามเมื่อมีการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปสักระยะหนึ่งทำให้อสมารินและคนนั้นต่างก็หลงรักซึ่งกันและกันจะมีพยานมาร่วมกันซึ่งในขณะนั้นอังศุมาลินกำลังตั้งครรภ์ลูกของโกโบริอยู่แต่อยู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

เมื่อฝ่ายตรงข้ามกับกองกำลังทหารของประเทศญี่ปุ่นได้มาทิ้งระเบิดตรงบริเวณที่โกโบริกำลังทำงานอยู่ซึ่งก็คือบริเวณสถานีรถไฟบางกอกน้อยนั่นเองซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้มีผู้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมากและหนึ่งในนั้นก็มีนายทหารที่ชื่อโกโบริคนนี้รวมอยู่ด้วยซึ่งขณะที่มีการถูกโดนระเบิดมาที่สถานีรถไฟบางกอกน้อยนั้น

อังศุมาลินที่รู้เรื่องราวว่ามีการวางระเบิดที่สถานีรถไฟบางกอกน้อยก็วิ่งมาหาชายคนรักของตนเองซึ่งในที่สุดแล้วกว่าเธอจะหาชายคนรักของเธอเจอเธอก็พบว่าโกโบรินั้นได้เสียชีวิตแล้วแต่ก่อนที่จะเสียชีวิตนั้นเขาได้พูดกับอังศุมาลินว่าเขาจะรักเธออย่างนี้ตลอดไปและเขาจะรอเธออยู่ที่ตรงทางช้างเผือก

ซึ่งอังศุมาลินเองก็รับปากว่าเมื่อเธอดูแลลูกจนเติบใหญ่แล้วและเมื่อเธอเสียชีวิตไปเธอจะไปหาโกโบริที่ทางช้างเผือกนั่นเองซึ่งเรื่องราวความรักในครั้งนี้ได้มีการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อยู่หลายครั้งจนทำให้หลายคนนั้นเกิดความประทับใจกับความรักที่ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นมีต่อหญิงสาวชาวไทยอย่างมากนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย   แอพคาสิโน ได้เงินจริง